Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 65 มาที่โรงยิมมวยใต้ดินอีกครั้ง

บทที่65 มาที่โรงยิมมวยใต้ดินอีกครั้ง

มันทำให้หวางเต๋อและหวางเห้าเองก็ตกใจกับการกระทำของจาวซิ่วจือไม่หยุดเช่นกัน

หวางเต๋อดึงจาวซิ่วจือตามจิตใต้สำนึก : “คุณเป็นบ้าอะไร? ยังขายขี้หน้าไม่พอใช่ไหม?”

จาวซิ่วจือสะบัดหวางเต๋อออกไปด้วยท่าทางที่ระรานและจ้องเขม็งอย่างโหดร้าย

แล้วหันกลับมามีรอยยิ้มระบายอยู่เต็มใบหน้าอีกครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า : “ลูกเขยที่แสนดี ก่อนหน้านี้เป็นครอบครัวเราเองที่ทำไม่ถูก คุณเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีทุกอย่างมากมาย คุณมาเริ่มสร้างใหม่อีกครั้งกับหวางหนันหนันเถอะนะคะ อย่าทอดทิ้งลูกสาวของฉันเลย”

ถ่อมตนลงมาและไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนเช่นในอดีตอีกต่อไป

“ทอดทิ้ง?”

หวางหนันหนันบ่นพึมพำ คำพูดของแม่เหมือนมีดที่แผดเผา ทิ่มแทงลงไปบนหัวใจของเธออย่างโหดร้าย ทำให้เธอพังทลายลงไป รู้สึกว่าท้องฟ้ากำลังหมุนอยู่ในชั่วพริบตา

แม่ทำให้เธอเป็นอะไรไปแล้ว?

แม่พูดอะไรในตอนที่หย่า? ทำไมตอนนี้ยังจะพูดอย่างนี้อีก?

พึ่บ!

วางสายโทรศัพท์แล้ว

รอยยิ้มที่กองสุมอยู่บนใบหน้าของจาวซิ่วจือหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยถูกยึดและเข้าแทนที่ด้วยความเย็นยะเยือกที่มิอาจจะพรรณนา

เธอหันหัวมาแล้วบีบแขนของหวางเต๋ออย่างรุนแรง : “ไม่มีประโยชน์ชะมัด เมื่อกี้นี้คุณหยุดฉันทำไม? ฉันโทรหาลูกเขยของฉัน มันเรื่องอะไรของคุณด้วย?”

“รักษาหน้าไว้บ้างเถอะ” หวางเต๋อแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังเอ่ยออกมา

“รักษาหน้า?”

จาวซิ่วจือยิ้มเยาะอย่างเย็นชา : “โอเค คุณจะรักษาหน้าแล้วคุณจะจัดการการแต่งงานของลูกชายยังไงล่ะ?”

“คุณ…” หวางเต๋อโดนคำพูดนี้จนสำลักและพูดอะไรไม่ออก

จาวซิ่วจือชี้ไปในโทรทัศน์แล้วพูดว่า : “คุณดูสิ ตอนนี้เฉินตงร่ำรวยขนาดไหน? ตอนนี้เขากลายเป็นเจ้านายของไท่ติงไปแล้ว และตอนนี้ไท่ติงกำลังปฏิรูปภาคตะวันตกของเมือง หลังจากที่ปฏิรูปทั้งหมดจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว เขาจะร่ำรวยขนาดไหน?”

ขณะที่พูดเช่นนี้ ดวงตาของจาวซิ่วจือเต็มไปด้วยแสงสว่างเรืองรอง

“เฉินตงชอบหนันหนันขนาดนั้น ตอนนี้หนันหนันจะไปขอโทษเขา แล้วจะต้องแต่งงานใหม่แน่นอน จากนั้นตระกูลหวางของพวกเราก็จะสามารถเจริญได้อีกครั้งแล้ว!”

หวางเต๋อมองไปที่จาวซิ่วจืออย่างงุนงง : “แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องวุ่นวาย เป็นเรื่องใหญ่มาก หน้าตาตระกูล

หวางของพวกเราหายไปหมดสิ้นแล้วต่อหน้าคนทั้งเมือง คุณยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่อีกงั้นเหรอ?”

“แล้วเรื่องนี้ไม่ต้องโทษหนันหนันหรือไง?!”

จาวซิ่วจือกัดฟันแล้วตะโกนใส่หวางหนันหนันด้วยความโกรธ : “หวางหนันหนัน วันนี้แกทำเรื่องโง่ขนาดนี้ ทำให้ครอบครัวของเราต้องอับอายขายหน้าไปจนหมด เฉินตงเป็นคนดีมากขนาดนั้น ตอนนั้นแกคิดอะไรถึงได้หย่ากับเขา?”

“ฉันที่เป็นแม่ ต้องการให้แกไปขอโทษเฉินตงทันทีและแต่งงานใหม่กับเขา!”

ดวงตาของหวางหนานหนานบวมและแดง เธอร้องไห้มานานจนกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาไปแล้ว

แม่รักหน้าตาของตนเองมาตลอด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตระกูลหวางต้องอับอายขายหน้าไปอย่างสิ้นเชิง

แต่สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ไม่ได้สนใจเรื่องที่ต้องขายหน้าเลยสักนิด แต่ที่สนใจจริงๆกลับเป็นการให้เธอไปขอโทษเฉินตงและยังให้ต่อสู้เพื่อการแต่งงานใหม่ด้วย?

“แม่คะ แม่เห็นหนูเป็นอะไร? หนูไม่ใช่คนที่เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือนะคะ หนูก็มีควมารู้สึกเช่นกัน เป็นหนูที่ทิ้งเฉินตงไปตั้งแต่แรก แล้วทำไมตอนนี้ยังจะให้หนูไปขอโทษเพื่อแต่งงานซ้ำอีกรอบด้วย?” หวางหนันหนันร้องตะโกนด้วยความโกรธ

“แกยังกล้าต่อปากต่อคำกับฉันอีกเหรอ?”

จาวซิ่วจือโกรธจนหน้าแดงแล้วคำรามอย่างเกรี้ยวกราด : “หวางหนันหนัน แกต้องการจะทำให้ฉันโกรธใช่ไหม?”

ขณะที่พูด อีกด้านเธอก็มีท่าทางที่หายใจติดขัดไปด้วย

เธอรักหน้าตาของตัวเองอย่างแน่นอน แต่เธอรักเงินยิ่งกว่า

เฉินตงเป็นอดีตลูกเขยของเธอ ตอนนี้เขาร่ำรวยขนาดนี้แล้ว ขอเพียงแค่หวางหนันหนันแต่งงานใหม่กับเขาอีกรอบ ในอนาคตเงินของเฉินตงจะไม่ใช่ของเธอหรอกเหรอ?

ขอเพียงแค่มีเงิน หน้าตาที่เสียไปจะไม่กลับคืนมางั้นเหรอ?

ท่าทางที่หายใจติดขัดของจาวซิ่วจือทำให้หวางเต๋อตกใจ

หวางเต๋อรีบลุกขึ้นและช่วยให้หน้าอกของเธอหายใจได้สะดวก : “คุณอย่าตื่นเต้น ระวังหัวใจหน่อย”

“คุณเป็นห่วงฉันขนาดนี้เลยเหรอ? ลูกสาวของฉันยังไม่ฟังแม้แต่คำพูดของฉันที่เป็นแม่เลย ฉันจะตายก็ช่างเถอะ!” จาวซิ่วจือปัดมือของหวางเต๋อออก

หวางเต๋อขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวดและเกิดความโกรธด้วยจึงพูดอย่างขุ่นเคืองว่า : “คุณตาบอดหรือไง? เฉินตงสารภาพรักต่อกู้ชิงหยิ่งตรงสถานที่เปิดขายพรีเซลส์ของหลงถิงฮัวหยวนไปแล้ว มันไม่มีช่องว่างสำหรับทางหนีทีไล่ในเรื่องนี้เลย!”

“พูดเหลวไหล!”

จาวซิ่วจือเบิกตากว้างและด่าทอว่า : “เฉินตงและหวางหนันหนันหย่ากันมานานแค่ไหน? ก่อนหน้านี้เฉินตงชอบหนันหนันขนาดนั้น ทั้งเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำพูดของหนันหนัน ขอเพียงหนันหนันไปขอโทษและขอคืนดี เฉินตงจะต้องสลัดนังเด็กคนนั้นกู้ชิงหยิ่งทิ้งอย่างแน่นอน!”

ภายในบ้าน เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายไปหมด

ต่างทะเลาะกันอย่างรุนแรง

ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้หวางเห้าทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาก้าวมาข้างหน้า : “แม่ หรือว่าแม่ยังไม่รู้ตัวใช่ไหม? เฉินตงร่ำรวยอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ผมเคยพูดแล้วว่า การที่เขาหย่ากับพี่สาวจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วอย่างแน่นอน ตอนนี้ไปขอร้องแล้วจะมีประโยชน์อะไร?”

“ถ้าอย่างนั้นแกยังอยากจะแต่งงานอยู่หรือเปล่า?”

ใบหน้าของจาวซิ่วจือบิดเบี้ยว ดวงตาดุร้ายมากถึงขีดสุด : “ฉันไม่สนใจว่าเขาไตร่ตรองอะไรไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องลองดู เฉินตงร่ำรวยมากขนาดนั้น เราต้องทนต่อไปถึงจะน่าเวทนาอีกมากแค่ไหนก็ตาม หลังจากพี่สาวของแกแต่งงานใหม่กับเขา เงินของเขาจะไม่กลายเป็นของครอบครัวเรางั้นเหรอ?”

ประโยคนี้ทำให้หวางเห้าพูดไม่ออก

การแต่งงานของเขากับหลินเสว่เอ๋อนั้นกระชั้นชิดเข้ามาแล้วจริงๆ

ครอบครัวไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้มากกว่านี้แล้วจริงๆ หนทางก้าวหน้าก็ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่ตัวของเฉินตงแค่เพียงอย่างเดียวแล้ว

เห็นว่าหวางเห้าหุบปากไปแล้ว จาวซิ่วจือก็จ้องไปที่หวางหนันหนันอย่างดุร้าย

เธอไม่ได้มีความละอายใจต่อการล่มสลายทางอารมณ์ของหวางหนันหนันในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย

ในทางตรงกันข้ามกลับเพิ่มข้อหาใหญ่

“แกนังเด็กคนนี้นี่ ตัวเองอยู่ในความสุขแต่กลับไม่รู้ค่า เฉินตงเป็นลูกเขยที่ดีของฉัน อยากมีหน้ามีตาก็มีหน้ามีตา อยากได้ความสามารถก็มีความสามารถ แกที่ได้แต่งงานกับเขาตั้งแต่ตอนนั้น มันก็คือการเอื้อมถึงเขาได้แล้วอย่างแท้จริง แต่แกกลับไม่รู้จักรักษาเอาไว้!”

ตุ้บ!

หวางหนันหนันล้มลงบนพื้น ร่ำไห้อย่างเจ็บปวดใจด้วยหัวใจที่แตกสลาย

แต่ว่าจาวซิ่วจือยังคงไม่หยุดและกล่าวโทษอย่างรุนแรง : “หวางหนันหนัน ฉันจะบอกแกไว้เลยนะ ถ้าแกไม่อยากให้ฉันตาย แกก็ต้องเชื่อฟังไปขอคืนดีกับเฉินตง ทำให้ลูกเขยที่แสนดีของฉันกลับคืนมา ไม่อย่างนั้นถึงฉันตายก็ไม่ขอจำว่าแกคือลูกสาว!”

หวางเต๋อและหวางเห้าที่อยู่ด้านข้างต่างมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก แต่พวกเขาต่างเลือกทีจะเงียบ

…….

อีกด้านหนึ่ง

ระหว่างทางไปโรงยิมมวยใต้ดิน

คุนหลุนมองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ : “คุณชาย สายของใครเหรอครับ ถึงได้วางสายโดยไม่พูดอะไรสักคำ?”

“ผีดูดเลือดเฒ่า”

เฉินตงยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม ดวงตาแสดงออกถึงความโกรธเคือง : “แค่พูดถึงคำเดียวก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว”

ดวงตาของคุนหลุนมีประกายขึ้นวาบขึ้นมาแล้วนึกขึ้นได้ทันที

เขารู้อดีตที่ผ่านมาของเฉินตง พอมองไปข้างหน้า คุนหลุนได้พูดว่า : “คุณชาย ถึงแล้วครับ”

เฉินตงพยักหน้า ขณะที่ลงจากรถได้หยิบมือถืออกมาอีก และดึงเบอร์โทรของจาวซิ่วจือมาไว้ในรายชื่อบัญชีดำ

ความโลภของตระกูลหวางน่ารังเกียจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว!

เมื่อเข้าสู่โรงยิมมวยใต้ดิน

ความมืดที่คุ้นเคยได้เข้าปกคลุม

เสียงตะโกนที่ดังก้องสะท้อนภายในหูทำให้เลือดของคนสูบฉีดและปลุกให้ตื่นจากภวังค์

เฉินตงยิ้มเบาๆ ครั้งแรกที่มาที่นี่ สร้างความตกใจให้กับเขาเพียงเท่านั้น

เมื่อกลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง สภาวะอารมณ์กลับสงบลงมากจะมีบ้างก็เพียงแค่ยกระดับประสบการณ์การต่อสู้

เขาและคุนหลุนค่อยๆเดินไปยังทิศทางของกรงเหล็ก ภายในกรงเหล็กกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เฉินตงไม่รู้สึกว่ามีอะไรเลยและทำเหมือนกับว่าคุ้นเคยในการหยิบหน้ากากสีขาวออกมาและสวมลงไปบนหน้าแล้วรับชมการต่อสู้กับคุนหลุนอย่างสงบนิ่ง

สำหรับเขาแล้วการต่อสู้ด้วยตนเองเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้ และการรับชมการห้ำหั่นกันก็ยังเป็นอีกวิธีในการสั่งสมประสบการณ์ด้วยเช่นกัน

และในเวลานี้

มีเงาดำหนึ่งพุ่งเข้ามาใกล้เฉินตงและคุนหลุนอย่างรวดเร็วในความมืด

ท่ามกลางความมืดมิด เงาดำนั้นมีความรวดเร็วอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ

เขายกมือขวาขึ้นและคว้าไปที่ทิศทางของเฉินตงโดยตรง

เส้นยาแดงผ่าแปดไปอย่างหวุดหวิด

คุนหลุนขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็หันกลับมา

พึ่บ!

แล้วคว้าข้อมือของเงาดำด้วยมือข้างเดียว : “อยากตายใช่ไหม?”

เฉินตงสะดุ้งตกใจทันที ในตอนที่หันกลับไปก็มองเห็นเงาดำ แผ่นหลังเย็นเยียบขึ้นมาทันทีทันใด

เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนเข้ามาใกล้ด้านหลังเขา!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset