Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 70 เขาเป็นพ่อของแก!

บทที่ 70 เขาเป็นพ่อของแก!

ระหว่างที่หลี่หลานพักอยู่ที่โรงพยาบาล เฉินตงไม่เคยบอกเธอเรื่องความร่ำรวยชั่วข้ามคืนของตนเองและคนที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน

ยี่สิบกว่าปีที่ทอดทิ้งครอบครัวไป เขากลัวว่าเหตุการณ์นี้จะกระตุ้นแม่ของเขา

แต่ว่า วันนี้ควรจะสารภาพเรื่องนี้กับแม่ได้แล้ว

ได้ยินกู้ชิงหยิ่งพูดว่าเซอร์ไพรส์ หลี่หลานก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มและไม่ได้ซักไซ้ต่อไปอีก

จัดเก็บกระเป๋าสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก็เสร็จเรียบร้อย

ทั้งห้าคนขึ้นรถสองคัน มุ่งหน้าไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานด้วยกัน

ระหว่างทางมีกู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ไปด้วย หลี่หลานอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก รู้สึกกลมเกลียวแน่นแฟ้น

ภายในใจของเฉินตงกำลังพิจารณาใคร่ครวญ ว่าควรจะพูดกับแม่ถึงสิ่งที่เขาประสบพบเจออย่างไรดี

ขณะที่รถขับขึ้นเขาเทียนซาน

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่หลานก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

“ตงเอ๋อ บ้านใหม่อยู่บนเขาเทียนซานงั้นเหรอ?”

เขตวิลล่าเขาเทียนซานเป็นเพดานราคาของเมืองนี้ และระดับชื่อเสียงที่ทุกคนต่างรู้จักไม่ใช่สิ่งที่เกินจริง

เฉินตงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

หลี่หลานมีสีหน้าช๊อค ริมฝีปากที่ซีดจางมีเสียงพึมพำเบาๆ

แต่ท้ายที่สุด เธอก็ยังอดกลั้นต่อไปโดยไม่ซักถามเพิ่มเติมเลย

เพียงแค่ตลอดทาง ท่าทางของหลี่หลานมีความมึนงงเล็กน้อย ทิวทัศน์ที่สวยงามนอกหน้าต่างรถและที่ตั้งของบ้านใหม่ทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนกับความฝัน

เธอรู้สถานการณ์ภายในบ้าน ถึงแม้เฉินตงจะเป็นรองประธานบริษัทไท่ติงด้วยเงินเดือนหนึ่งล้านต่อปี

แต่ว่าเงินทั้งหมด ทั้งใช้เพื่อรักษาอาการป่วยของเธอ ทั้งถูกหวางหนันหนันเอาไปให้ครอบครัวของเธอ

ภายในบ้านเหลือเงินเก็บไม่มากจริงๆ!

การดำเนินการปลูกถ่ายตับของเธอในครั้งนี้ และการหย่าร้างของเฉินตงกับหวางหนันหนันก็ควรจะทำให้ไม่มีเงินมานานแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ราคาบ้านของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน นั่นมันมีราคาสูงลิบลิ่ว!

ถึงแม้ว่าเงินเดือนต่อปีของเฉินตงจะเป็นล้าน ก็ไม่มีทางซื้อบ้านที่นี่ได้อย่างแน่นอน!

จนกระทั่งรถหยุดตรงหน้าวิลล่าบนเนินเขา ขณะที่กู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ประคองเธอเดินเข้าไปในวิลล่า

ในที่สุดหลี่หลานก็เหมือนเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝัน

ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แล้วก้าวทีละฝีก้าวเดินเข้าไปในวิลล่าแล้วค่อยหายใจถี่ขึ้นอย่างช้าๆ

“คุณป้าคะ นี่คือบ้านหลังใหม่ที่เฉินตงเตรียมไว้สำหรับคุณค่ะ”

กู้ชิงหยิ่งประคองหลี่หลานอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวล

“เป็นบ้านใหม่…จริงเหรอ?”

หลี่หลานยังคงไม่อยากจะเชื่อ

ในใจของเธอ บ้านของที่นี่เป็นสิ่งที่ไกลเกินอาจเอื้อม เธอเลี้ยงดูเฉินตงให้เติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวและลำบากยากแค้น ถึงแม้แต่ในความฝัน ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถได้อยู่บ้านแบบนี้

ลานสนามที่มีขนาดกว้าง เป็นสนามหญ้าที่มีต้นหญ้าสีเขียวเล็กๆ และยังมีภูมิทัศน์ของน้ำพุที่งดงาม

ทุกๆอย่าง ในใจของหลี่หลานล้วนแต่เหมือนกับ “ดินแดนมหัศจรรย์”

เฉินตงและคุนหลุนที่แบกสัมภาระได้เดินอย่างรวดเร็วไปยังด้านหน้าวิลล่า เฉินตงหยิบกุญแจบ้านออกมา

คลิก!

เสียงเปิดประตู สำหรับหลี่หลานแล้ว มันเหมือนกับฟ้าร้องเสียงดังลั่น ทำให้ร่างของเธอสั่นเทาในทันที

“แม่ครับ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”

ในตอนที่พูดด้วยเสียงกระซิบอย่างนุ่มนวลออกมานั้น เบ้าตาของเฉินตงก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดง

ตั้งแต่เล็กจนโต แม่ของเขาต้องกล้ำกลืนความทุกข์ยากเพื่อเลี้ยงดูเขาให้เติบใหญ่

หลังจากเรียบจบแล้วเขาทำงานอย่างหนักเพราะแค่ต้องการเป็นนกอินทรีที่คอยหา่อาหารมาป้อน ทำให้แม่ของเขาได้มีความสุข แต่แม่ของเขากลับป่วยหนักแล้วหวางหนันหนันก็มาเอาเงินช่วยชีวิตแม่ไปให้ครอบครัวของเธอ มันเหมือนกับการลากเขาลงไปในนรก

และการปรากฏตัวของท่านหลง กลับเป็นการดึงเขาขึ้นสวรรค์

ครั้งหนึ่งในนรก และครั้งหนึ่งในสวรรค์ มีเพียงผู้ที่ผ่านประสบการณ์จริงเท่านั้น ถึงจะเข้าใจความหมายในนั้น การพูดนั้นยาก แต่การแสดงออกนั้นชัดเจน

“ดี…ตงเอ๋อคนดี ลำบากลูกแล้ว ลำบากแล้ว”

หลี่หลานไม่ซักถามอย่างอื่นเลย ดวงตาเป็นสีแดงและมีน้ำตา เธอกอดเฉินตงจากนั้นก็ยิ้มและพูดกับกู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ว่า: “มาเร็ว กลับบ้านกัน กลับบ้านกัน”

กลุ่มคนเดินเข้าไปในบ้านอย่างปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด

กู้ชิงหยิ่งที่ดึงเฉินตงด้วยมีใบหน้างามแดงเล็กน้อย จงใจกระซิบในตอนท้ายว่า : “ได้ยินไหม คุณป้าให้ฉันกลับบ้านแล้ว”

“ก็ไม่มีปัญหานี่นา” เฉินตงยิ้มเล็กน้อย

ดวงตากู้ชิงหยิ่งส่องแสงวาววับแล้วชำเลืองมองอย่างตำหนิ : “คุณมันคือตาทึ่ม”

คุนหลุนและฟ่านลู่ช่วยกันจัดกระเป๋าเข้าไปตามตำแหน่ง

หลี่หลานนั่งคนเดียวบนโซฟาห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง เธอมองไปรอบๆด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าจนพร่ามัว

แล้วมองเห็นเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งเดินเข้ามา

หลี่หลานยิ้มอย่างใจดี : “ตงเอ๋อ วิลล่านี่น่าจะมีระเบียงใช่ไหม? แม่ดูในโทรทัศน์มีทุกหลังเลย พาแม่ขึ้นไปดูได้หรือเปล่า?”

“คุณป้าคะ บนระเบียงลมแรงมาก คุณ…”

กู้ชิงหยิ่งกังวลถึงร่างกายของหลี่หลาน แต่ก่อนที่จะพูดจบก็ถูกเฉินตงแอบบีบมือยับยั้งเอาไว้แล้ว

“โอเคครับแม่”

เฉินตงยิ้มแล้วประคองหลี่หลานเดินขึ้นไปยังระเบียงดาดฟ้าชั้นบน

เขารู้ว่าแม่ไม่ได้อยากดูอะไร แต่มีสิ่งต้องการถามที่ระเบียงกว้าง

ดอกไม้หลายร้อยชนิดแข่งขันกันเบ่งบาน สายลมพัดโชยนำพากลิ่นหอมมาในอากาศ

เฉินตงประคองหลี่หลานนั่งลงบนเก้าอี้

ใบหน้าของหลี่หลานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอมองซ้ายมองขวา โดยยังมิได้รีบร้อนที่จะพูดอะไร

“แม่ อยากถามอะไรเหรอครับ?” เฉินตงนั่งลงข้างๆ

ทันใดนั้นหลี่หลานก็ยกมือขึ้นแล้วตบลงไปบนแขนของเขาฉาดหนึ่งและกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าถมึงทึง : “ลูก ลูกทำสิ่งผิดกฎหมายใช่ไหม?”

แม่นึกว่าฉันทำอะไรที่ผิดกฎหมายถึงได้ร่ำรวยสินะ?

เฉินตงตกใจ แต่ไม่ได้โกรธ

ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงแม้ว่าครอบครัวจะลำบากขนาดไหน แม่ก็สั่งสอนเขาไม่ให้ขโมยหรือฉกฉวย โดยจะต้องทำงานอย่างหนักพยายามด้วยตัวเอง

ด้วยปัจจัยของครอบครัว จู่ๆเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เป็นเรื่องปกติมากที่คนสูงวัยในบ้านจะคิดในแง่นั้น

เขาหัวเราะเบาๆ : “แม่ครับ แม่สอนผมมา ผมไม่เคยลืมเลยแล้วจะเป็นไปได้ยังไง?”

“งั้นลูกก็พูดมา ว่าบ้านนี้มันคือเรื่องอะไรกัน?”

ดวงตาสีแดงของหลี่หลานชี้ไปโดยรอบ : “อย่าคิดว่าแม่ป่วยจนสับสนไปแล้ว ใครจะไม่รู้ว่าราคาบ้านของวิลล่าเทียนซานสูงแค่ไหน? ทำไมจู่ๆลูกถึงซื้อบ้านที่นี่ได้?”

เทียบกับความประหลาดใจแล้ว เวลานี้หลี่หลานรู้สึกกังวลใจมากกว่า

เธอไม่ใส่ใจความยากจน และไม่ใส่ใจต่อความลำบาก

แต่เธอใส่ใจว่าลูกชายของตนเองจะทำเรื่องเลวร้าย!

เฉินตงยิ้ม แล้วทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นขมขื่นเล็กน้อย เขามองแม่ด้วยดวงตาแดงก้ำลึกล้ำ : “แม่ครับ ที่จริงพ่อยังไม่ตายใช่ไหม?”

ตูม!

หลี่หลานราวกับถูกฟ้าผ่าทันใดนั้นความโกรธก็แข็งตัวอยู่บนหน้าของเธอ

รูม่านตาของเธอค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น แล้วปรากฏเป็นสีหน้าตระหนกตกใจอย่างยิ่ง

“ผมรู้ว่าเขายังไม่ตาย”

เฉินตงนั่งยองๆลงข้างกายแม่แล้วเงยหน้าขึ้นมองแม่ของเขา : “ในตอนนั้นเขาแค่ทอดทิ้งพวกเราไปเท่านั้นเอง ไปเสาะแสวงความมั่งคั่งร่ำรวยและยศศักดิ์”

“ลูก ลูกรู้ได้ยังไง?”

หลังจากที่ตื่นตกใจแล้ว ทันใดนั้นท่าทางการแสดงออกของหลี่หลานก็ซึมเศร้าลงไป อาการอย่างนี้ แม้แต่เฉินตงก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

เฉินตงค่อยๆกล่าวอย่างช้าๆว่า : “เพราะว่าครั้งนี้เขากลับมาเพื่อช่วยผม”

“เขาอยู่ที่ไหน?” ดวงตาของหลี่หลานเป็นประกายวาบ แล้วรีบร้อนต้องการลุกขึ้นยืน

เฉินตงรีบปลอบใจ : “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ คนที่มาคือท่านหลงคนรับใช้ของเขา หลังจากที่หวางหนันหนันเอาเงินสำหรับการผ่าตัดของแม่ไปก็เป็นท่านหลงที่ปรากฏตัวออกมาและช่วยผมจ่ายเงินสำหรับการผ่าตัดให้แม่”

“หลังจากนั้น เขายังให้บัตรเครดิตพ่อที่ขี้ขลาดนั่นกับผมด้วย ดังนั้นตอนนี้แม่ถึงได้เห็นสิ่งเหล่านี้ยังไงล่ะครับ”

เมื่อได้ฟังแล้ว

ประกายในดวงตาของหลี่หลานได้หล่นหายไป เธอทรุดตัวกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหดหู่ แล้วก้มหน้าลงมองสองมือที่วางอยู่บนหัวเข่าอย่างเงียบๆไม่พูดอะไร

ดวงตาของเฉินตงเป็นสีแดง เขากลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา

“แม่ครับ แม่ว่ามันตลกหรือเปล่า? ตอนนั้นเขาละทิ้งครอบครัว ทิ้งขว้างพวกเราสองคนแม่ลูก ตอนนี้ จู่ๆก็กลับมาทำเป็นคนดี”

เพี้ยะ!

เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างกังวานและคมชัด

เฉินตงตกตะลึง รอยนิ้วมือปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วบนใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของเขา

หลี่หลานจ้องมองด้วยความโกรธและตะโกนว่า : “เขาคือพ่อของแก แกไม่มีสิทธิ์ใส่ร้ายเขาแบบนี้ ตอนนั้นเขาถูกบังคับให้ทำ!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset