Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 74 โยนมันออกไป!

บทที่ 74 โยนมันออกไป!

หลังจากได้รับสายจากผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลแล้ว

เฉินตงก็อดยิ้มอย่างเหยียดหยามไม่ได้

สามปีที่แต่งงานไป เขารู้ดีสำหรับนิสัยใจคอของคนในตระกูลหวาง

ดังนั้นหลังจากที่เขาย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าเขาเทียนซาน เขารู้ว่าจาวซิ่วจือต้องมาหาถึงที่และเขาก็ได้แจ้งกับนิติบุคคลไปแล้ว

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ต้องแจ้งเขาให้ทราบก่อนและไม่ต้องแจ้งให้แม่ของเขาทราบ

แม้ว่าแม่ของเขาจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ในช่วงระยะการพักฟื้น เขาไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคิดมาก

โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาด้วย

แม่เหนื่อยมามากพอแล้ว เขาไม่อยากเพิ่มภาระให้แม่ของเขาอีก

“คุณเฉินครับ จะเอายังไงดีครับ?”

ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลถาม

เฉินตงเลิกคิ้ว “ตอนนี้ผมยังโสด แล้วจะมีแม่ยายได้ยังไง?”

ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลเงียบไปสักพัก จากนั้นค่อยพูดต่อ “ครับผม ผมเข้าใจแล้วครับ”

หลังจากวางสายลง สีหน้าของเฉินตงดูเย็นชาเล็กน้อย

เขาไม่ได้เป็นคนที่ไม่เด็ดขาดเลย อีกอย่างความสัมพันธ์ของเขากับหวางหนันหนันก็จบกันไปนานแล้ว

ครั้งหนึ่งตระกูลหวางเคยเพิกเฉยต่อเขา และตอนนี้เขาก็จะทำให้ตระกูลหวางไม่สามารถยืนขึ้นได้

ชนิดที่ว่าเข้าประตูไม่ได้ด้วยซ้ำ!

ณ สำนักงานนิติบุคคลของวิลล่าเขาเทียนซาน

แววตาของผู้จัดการที่เพิ่งวางสายลงก็เปล่งประกายออกมา

วิลล่าเขาเทียนซานเป็นของโจวเย่นชิว และบริษัทนิติบุคคลก็อยู่ภายใต้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของโจวเย่นชิวเช่นกัน

หลังจากที่เฉินตงซื้อวิลล่าเขาเทียนซาน โจวเย่นชิวก็ออกคำสั่งโดยตรงไปยังประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมอบหมายงานของเฉินตงให้ทางบริษัทนิติบุคคลนี้

ดังนั้นผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลจึงพอรู้จักเฉินตงอยู่บ้าง

และเขาก็รู้ว่าทั้งชายและหญิงหน้าที่อยู่หน้าประตูวิลล่านั้น เป็นอดีตพ่อตาแม่ยายของเฉินตงจริงๆ!

“โกงได้แม้กระทั่งเงินค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ของคุณเฉิน แล้วตอนนี้เห็นคุณเฉินฐานะดีขึ้นก็คิดจะมาเลียแข้งเลียขาถึงที่? หน้าด้านจริงๆ!”

ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นออกคำสั่งในวิทยุสื่อสารว่า “ไล่พวกมันไปให้พ้น!”

หน้าประตูวิลล่า

ขณะนี้ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้น

จาวซิ่วจือทั้งดุด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั้น และถึงขั้นลงไม้ลงมือกับพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

จนกระทั่งชุดของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฉีกขาดและรอยฝ่ามือบนใบหน้าก็เพิ่มขึ้นด้วย

แต่พวกเขาไม่กล้าทำการโต้ตอบใดๆ ก่อนที่จะได้รับอนุญาต เพราะผลที่ตามมาอาจจะมีปัญหาภายหลังต่อหน้าที่การงานของพวกเขาได้

หวางเต๋อทำได้เพียงกุมหัวแล้วถอนหายใจอยู่ข้างๆ เพราะจาวซิ่วจือ เขาจึงไปไหนไม่ได้

โดยรอบนั้น เริ่มมีคนเข้ามามุมดูกันแล้ว

ผู้คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ที่อาศัยอยู่หรือเป็นพี่เลี้ยงอยู่ในวิลล่านี้

ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในวิลล่านี้ ทุกคนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน

คนที่สามารถพักอยู่ในชุมชนแห่งนี้ล้วนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกคน ไม่มีใครทำตัวก้าวร้าวต่อหน้าสาธารณะแบบนี้

“มองอะไร? กลับบ้านไปมองแม่ไป!”

เมื่อจาวซิ่วจือได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนอื่น เธอก็ชี้หน้าด่าพวกเขาด้วยความโกรธทันที

หวางเต๋อไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป เขาจึงเดินเข้าไปดึงชายเสื้อจาวซิ่วจือแล้วพูดกับเธอว่า “พอเถอะ เข้าไม่ได้เราก็กลับกันก่อนดีกว่า?”

“กลับบ้าอะไร! เรามาหาลูกเขยที่รักของเรา จะให้คนกระจอกพวกนี้ขวางทางเราได้ไง เรื่องแบบนี้คุณยอมได้เหรอ ฉันยอมไม่ได้หรอก!”

จาวซิ่วจือพูดด้วยสายตาที่จะกินคน จากนั้นตบแขนของหวางเต๋อด้วยความแรง “ไอ้คนกระจอกอย่างนาย หลบไปไกลๆ!”

“คุณ……” หวางเต๋อหน้าแดงระเรื่อ แต่เขาทำได้เพียงเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ

จาวซิ่วจือหันกลับมาตะโกนด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั้นต่อ “ยังไม่รีบเปิดประตูอีก? อย่าให้ฉันพังประตูเองนะ!”

เธอพูดไปแล้วลงไม้ลงมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองไปด้วย

และในขณะนั้น

เสียงวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ติดต่อนิติบุคคลเมื่อครู่นี้ก็ได้ดังขึ้น

“ไล่พวกมันไปให้พ้น!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ดวงตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองสว่างขึ้นทันที

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งคว้าแขนของจาวซิ่วจือที่กำลังเหวี่ยงเข้ามาหาเขาไว้

“ได้ยังแล้วหรือยัง? ผู้จัดการเราสั่งให้คุณไปให้พ้น ยังกล้าโวยวายอีกเหรอ?”

“แหมๆ ยังกล้าขัดขวางฉันเหรอ?”

จาวซิ่วจือรู้สึกเอะใจ แต่ก็ยังตะโกนอย่างเสียงดัง “ไอ่พวกหมาเฝ้าบ้าน กล้าขัดขวางฉันใช่ไหม?”

จาวซิ่วจือด่าไปด้วยแล้วใช้มืออีกข้างคว้าใบหน้าของเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไปด้วย

“โอ๊ย!”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกเล็บข่วนจนใบหน้าเป็นแผลก็ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ

ด้วยความเจ็บปวด เขาเหวี่ยงแขนของจาวซิ่วจือออกไปด้วยความแรง

จาวซิ่วจือตะโกนขึ้นมาทันที จากนั้นเธอเดินเซถอยหลังไปสองก้าวแล้วทรุดตัวลงบนพื้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ

ทันทีที่จาวซิ่วจือนั่งลงกับพื้น เธอก็ส่งเสียงร้องไห้ขึ้นมา

“โอ๊ย……ทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวิลล่าเขาเทียนซานทำร้ายร่างกายฉัน……ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? ทุกคนรีบเข้ามาดู……”

จาวซิ่วจือร่ำไห้ทั้งน้ำตา

ราวกับว่าเธอเป็นเหยื่อที่ถูกทำร้ายจริงๆ!

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ใบหน้ามีรอยขีดข่วนก็ตกตะลึงทันที

ส่วนอีกคนก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

ในอาชีพพวกเขาเคยเจอผู้คนมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นบุคคลที่ไร้ยางอายขนาดนี้!

ผู้คนรอบข้างก็ตะลึงเช่นกัน

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็มีเสียงความขุ่นเคืองดังขึ้นจากผู้คนรอบข้าง

“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว! หน้าด้านจริงๆ! วิลล่าเขาเทียนซานของเรามีคนแบบนี้ด้วยเหรอ?”

“คนอะไรกันเนี่ย? คุณพี่รปภ. ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ต่อให้มันเอาเรื่องพวกพี่ยังไง พวกเราก็จะคอยหนุนหลังให้!”

“ไร้คุณธรรมจริงๆ ไอ้คนแบบนี้มาโผล่ออกมาจากไหนกันแน่?”

……

เมื่อได้ยินเสียงของผู้คนที่ยืนอยู่รอบข้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองก็รู้สึกอุ่นใจ

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบถอยห่างออกไปแล้วหยิบวิทยุสื่อสารออกมาพูดอะไรบางอย่าง

ใบหน้าของหวางเต๋อแดงและร้อนระอุขณะที่ได้ยินคำวิจารณ์ของผู้คน

เขากัดฟันแล้วรีบเข้าไปหาจาวซิ่วจือเพื่อพยุงเธอให้ลุกขึ้น

“รีบลุกขึ้นสิ คุณไม่อายคนอื่นเหรอ?”

“ไปให้พ้นเลย! ไอ้คนกระจอก เมียตัวเองถูกทำร้ายยังไม่คิดจะช่วย แต่กลับคัดค้านด้วย ให้ฉันตายซะดีกว่า!”

จาวซิ่วจือได้แต่นั่งร้องไห้งอแงอยู่บนพื้น ทำให้หวางเต๋อทำได้เพียงถอนหายใจดังๆ

จาวซิ่วจือเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก

แต่ศักดิ์ศรีมันกินได้ไหม?

ตอนนี้เธอแค่อยากเจอเฉินตง เธอต้องการขอโอกาสจากเขา เธอต้องการให้เขาคืนดีกับครอบครัวของเธอ เพื่อเงินของเฉินตงจะกลายเป็นของเธอในอนาคต!

ถึงตอนนั้นไม่ใช่เพียงแค่หวางเห้าได้แต่งงาน เธอกับสามียังมีโอกาสย้ายเข้ามาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวิลล่าเขาเทียนซานแห่งนี้อีกด้วย!

แต่ในขณะนี้

มีรถตู้คันหนึ่งแล่นออกมาจากบริเวณด้านในของวิลล่าเขาเทียนซานอย่างรวดเร็ว

เอี๊ยด!

รถตู้คันดังกล่าวจอดลงตรงหน้าจาวซิ่วจือกับหวางเต๋อ

หลังจากเปิดประตูก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนวิ่งลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว

จากนั้นพวกเขารีบจับตัวหวางเต๋อกับจาวซิ่วจือขึ้นไปบนรถโดยที่ไม่สนใจเสียงกรีดร้องของเขาทั้งสอง

เมื่อประตูรถปิดลง คนขับรถก็เหยียบคันเร่งทันที

ในเวลาเดียวกัน ด้านในรถก็มีเสียงตะโกนพูดด้วยความโกรธ

“ไอ้พวกหมูหมากาไก่ คิดจะมาก่อเรื่องที่วิลล่าเขาเทียนซานของเราเหรอ? พูดกันดีๆ ไม่ชอบ อย่าหาว่าเราให้กำลังก็แล้วกัน!”

ในชั่วขณะ รถตู้ก็ขับลงจากเขาอย่างรวดเร็ว

ซึ่งภาพนี้ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกตกตะลึง แต่กลับทำให้พวกเขารู้สึกยินดีด้วยซ้ำ!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset