Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 81 เดิมพัน!

บทที่ 81 เดิมพัน!

“จ่าย ฉันจะจ่าย…ปล่อยมือรีบปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ………………”

โจวจุนหลงตัวสั่นไปหมด เหงื่อไหลออกเหมือนฝนที่ตกลงมาและตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด

เขารู้สึกกลัวจริง ๆ

ความโหดเหี้ยมและเด็ดขาดของเฉินตงทำให้เขาตื่นตระหนกและกลัว

เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าเขายังปากแข็งต่อไป เฉินตงจะทำอะไรที่น่ากลัวกว่านี้บ้าง

นี่มันบ้าจริง!

“นายจ่ายมาตั้งแต่แรก เรื่องอะไรแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ?” เฉินตงหัวเราะ

พระเจ้า!

มีดถูกดึงออกจากต้นขาของโจวจุนหลง

โจวจุนหลงส่งเสียงน่าสงสารและร้องด้วยความเจ็บปวด “นาย นายเอามันออกมาทำไม?”

“อ่อ ถ้างั้นฉันเอากลับเขาไปใหม่ล่ะกัน”

พระเจ้า!

ร่างของโจวจุนหลงเกร็งตรงโดนไม่รู้ตัว เขาจ้องมองใบมีดที่กลับไปที่บาดแผลบนต้นขาของเขาด้วยความตกตะลึง

ภาพที่ได้เห็นทำให้ลูกน้องหลายสิบคนของโจวจุนหลงต่างตะลึง

นี่คือสิ่งที่มนุษย์ทำกันหรือไง?

เฉินตงเช็ดเลือดจากมือทั้งสองข้างบนชุดของโจวจุนหลงอย่างใจเย็น

จากนั้นเขาก็พูดช้า ๆ “ประธานโจว วันนี้ฉันมาที่นี่นอกจากจะให้นายจ่ายค่าชุดสูทแล้ว อีกอย่างคือฉันจะบอกให้นายรู้ไว้ ฟ่านลู่เป็นคนของฉันอย่าให้ลูกพี่ลูกน้องของนายมาแตะต้องเธอ!”

เสียงที่เย็นชาและดูทรงพลัง

ทำให้ดวงตาของโจวจุนหลงอดไม่ได้ที่จะสั่นไหว

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ทันใดนั้นโจวจุนหลงก็หัวเราะออกมา

เดิมทีใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

แต่อยู่ดี ๆ เขาก็หัวเราะขึ้นมา ทำให้รอยยิ้มของเขาน่ากลัวยิ่งขึ้น

เฉินตงขมวดคิ้ว

ทันใดนั้นม่านตาของเขาก็หดลงอย่างกะทันหัน

เขาเห็นกระบอกปืนสีดำโผล่ออกมาจากเอวของโจวจุนหลง

“ไม่ใช่ว่านายสู้ได้หรือไง? แน่จริงก็มาสิ!”

โจวจุนหลงลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ปืนสีดำพุ่งตรงเข้าไปจ่อที่อกของเฉินตง “แน่มาก เด็กอย่างนายแน่มาก กล้ามาลองดีกลับฉัน แถมยังกล้ามาสู้กับฉัน? นายลองไปถามคนอื่นดู ในเมืองนี้มีใครกล้าพูดกับฉันโจวจุนหลงแบบนี้”

ป๊าบ!

ฝ่ามือหนาตบลงไปที่หน้าของเฉินตง

น้ำหนักที่แรง

ทำให้ใบหน้าของเฉินตงหันไปอีกทาง บนใบหน้ามีรอยนิ้วมือทั้งห้าเกิดขึ้นทันที

เขากัดฟันและมองกลับไปมองโจวจุนหลงอีกครั้ง

“นายไม่ใช่สู้ได้หรือไง? มาลองดูว่าฝีมือนายหรือปืนของฉันจะเร็วกว่ากัน!” โจวจุนหลงดูโหดเหี้ยม เขาอดไม่ได้ที่อยากจะฝังกระสุนเข้าไปที่อกของเฉินตง

ทันใดนั้นเฉินตงก็ยิ้มออกมา “คนที่ฉันเกลียดที่สุดในโลก ถือปืนจ่อหัวฉันอยู่!”

“โอ้? ถ้าอย่างนั้นนายก็สู้สิ!”

โจวจุนหลงเลิกคิ้วและพูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว “จะตายอยู่แล้วยังปากแข็ง?”

น้ำเสียงไม่มีตก

ทันใดนั้นเฉินตงก็ยกมือขึ้นคว้าปืนและตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

“งั้นนายก็ยิงสิ! ถ้าวันนี้ฉันตายอยู่ที่นี่ พวกนายในนี้ก็ไม่มีใครออกจากประตูนี้ไปได้ นายคิดว่าโจวเย่นชิวเห็นถึงความสามารถของฉันหรือไงถึงได้อยู่ข้างฉัน?”

เสียงตะโกนดังก้องทั้งซานไห่เก๋อ

รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวจุนหลงหุบลงทันที

เขาไม่ได้โง่

ตรงกันข้ามเขามาจนถึงจุดนี้ได้ เขาต้องฉลาดกว่าคนทั่วไป!

เขามองโจวเย่นชิวเป็นคู่ต่อสู้เพียงผู้เดียวในเมืองนี้ เขารู้ประวัติและความสามารถของโจวเย่นชิว เป็นอย่างดี

คำพูดของเฉินตงเพียงคำเดียวทำให้เขาตกใจ!

แน่นอนสำหรับโจวเย่นชิวแม้ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับเฉินตงและสนับสนุนเขา แต่ก็จะไม่มีวันถึงขั้นทำลายบริษัทและของทุกอย่างในเมือง

ราคาเช่นนี้มันมากเกินไปแล้ว!

เมื่อเห็นโจวจุนหลงกำลังคิดอยู่ เหงื่อสองสามหยดบริเวณขมับของเฉินตงก็ค่อย ๆ ไหลลงมา

เขากัดฟันแน่นจ้องไปที่โจวจุนหลงอย่างดุเดือด

“แม้แต่ข้อมูลของฉันนายยังไม่หามาแล้วมายกปืนขึ้นมาขู่ฉัน? ฉันจะนายบอกให้นายแน่จริงก็ยิงมาเลย?”

น้ำเสียงนั้นไร้สติและแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง

โจวจุนหลงและเฉินตงจ้องมองกันและกัน ใจของพวกเขาเต้นแรง

เส้นเลือดดำที่มุมตายิ่งเด่นมากขึ้น

“นายคิดว่าฉันไม่กล้าสู้จริง ๆ เหรอ?”

เสียงกัดฟันดังก้องไปทั่วซานไห่เก๋อ

บรรยากาศดูเหมือนจะถูกแช่แข็งไปแบบนั้น

เพียงแค่ตอนนั้น

ปัง!

ประตูของซานไห่เก๋อถูกเตะออก

ดึงดูดสายตาของทุกคนไปทันที

เฉินตงเห็นว่าไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นกูหลัง!

“คุณเฉิน!”

เมื่อเห็นภายในซานไห่เก๋อ ใบหน้าของกูหลังก็เปลี่ยนไปอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าในทันทีแต่พูดขู่โจวจุนหลงว่า “โจวจุนหลง โจวเย่นชิวขอให้ฉันส่งข้อความถึงนาย อย่าเป็นมดที่คิดจะโค่นต้นไม้โดยไม่ดูกำลังตัวเองจนในที่สุดต้องตาย”

ตูม!

โจวจุนหลงเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าดุร้ายของเขาเปลี่ยนเป็นสยดสยองในทันที

สิ่งที่เฉินตงพูดเมื่อกี้ทำให้เขาลังเล

เมื่อกูหลังปรากฏตัวขึ้นคำพูดนั้นเหมือนทำให้ความโกรธทั้งหมดของเขาดับลงอย่างสมบูรณ์ด้วยน้ำเย็น

พระเจ้า……..ดันไปแตะเข้ากลับเหล็กแข็งแล้วจริง ๆ หรือไง?

ปัง!

ในตอนที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น

ทันใดนั้นเฉินตงก็ยกมือขึ้นและดันปืนที่จ่อหน้าผากของเขาออกไป ยิ้มอย่างเย็นชา“ฉันจะออกไปจากประตูนี้เดี๋ยวนี้ ถ้านายจะยิงก็ตามสบาย!”

หลังจากพูดจบเขาก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

โจวจุนหลงตกตะลึงเหงื่อท่วมตัว เขาจ้องมองอาวุธในมือดวงตาของเขาวูบลงและมืดลงในที่สุด เขาค่อย ๆ ลดปืนลง

ความนิ่งสงบของเฉินตงทำให้เขายิ่งกลัวที่จะยิงออกไป!

เขาอยู่มาถึงตอนนี้มีพร้อมทั้งเสื้อผ้าและหยกคงไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ที่อาจทำให้เขาเสียใจไปอีกพันปี

ด้านนอกโรงแรมไท่ซาน

กูหลังเดินตามเฉินตงไปอย่างเงียบ ๆ

ฉากในซานไห่เก๋อตอนนั้นทำให้กูหลังหน้าซีดลง หัวใจของเขาเต้นช้าลงอย่างประหลาดใจ

ท่าทางของเฉินตงนิ่งสงบอย่างน่าประหลาด ซึ่งกูหลังไม่เคยคาดคิด

“นายมีรถไหม?”

เฉินตงถามอย่างกะทันหัน

“มี คุณเฉินเชิญทางนี้” กูหลังรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อนำทาง

หลังจากขึ้นรถแล้วกูหลังก็รีบสตาร์ทรถ

หลังจากขับรถไปได้สักพัก ก็มีเสียงหายใจหนัก ๆ ดังมาจากในรถ

เฉินตงทรุดตัวลงบนที่นั่ง ถอดเสื้อสูทออกอย่างยากลำบาก เสื้อเชิ้ตข้างในชุ่มไปด้วยเหงื่อ

จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะตัวเอง “เมื่อกี้ฉันกลัวแทบตาย”

กูหลังตกตะลึง “ฉันคิดว่าคุณเฉินแข็งแกร่งดั่งภูผาไม่หวั่นไหว่ต่อสิ่งใด”

“ถ้าเปลี่ยนเป็นนาย นายจะกลัวไม่กลัวล่ะ?”

เฉินตงพูดอย่างเป็นกันเองและมองออกไปนอกหน้าต่างรถ

ตอนนั้นเขากำลังเดิมพันอยู่

การพนันและเกมจิตวิทยาของโจวจุนหลง!

โชคดีที่เขาชนะพนัน!

การมาของกูหลังกับคำพูดที่พูดกับโจวเย่นชิวช่วยเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย เขาจึงชนะเกมจิตวิทยาได้อย่างสมบูรณ์

กูหลังขับรถอย่างเงียบ ๆ มองดูด้านหน้า

การกระทำของเฉินตงนั่นเขาคาดไม่ถึง

แต่เมื่อคิดอย่างดี ๆ แล้วท่าทางของเฉินตงในตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นการโต้กลับที่แท้จริง

อย่างไรก็ตามตอนนั้นในซานไห่เก๋อ “ความเยือกเย็น” ของเฉินตง ยังคงทำให้เขาประทับใจจนยากที่จะลบออก

“ยังไงก็ตาม นายถูกโจวเย่นชิวเรียกมา?”

อยู่ดี ๆ เฉินตงก็ถามออกมา

กูหลังพยักหน้า “ใช่”

เฉินตงลูบจมูกของเขาและมอง “ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นคนรวยที่ให้โอกาสคนอื่นหรือเขาเป็นเจ้านายโรงยิมมวยใต้ดิน?”

กูหลังยิ้ม “ที่จริงวันนี้ฉันก็เพิ่งรู้ว่าเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังโรงยิมมวยใต้ดินคือประธานโจว”

“อืม”

เฉินตงไม่ได้แปลกใจมากนัก ธุรกิจของโจวเย่นชิวกว้างขว้างมาก เขาจะดูแลธุรกิจของตัวเองทั้งแบบเปิดเผยและแบบลับ ๆ มันต่างเป็นเรื่องปกติ

แต่เป็นกูหลังเต็มใจที่จะมา

มันทำให้เขาประหลาดใจอยู่บ้าง

“นายรู้ว่ามันอันตรายยังกล้ามาเหรอ?” เฉินตงถาม

กูหลังเงียบไปขณะหนึ่งและพูด “เพราะฉันต้องการติดตามคุณเฉิน”

“ฉันไม่สนเรื่องพวกนี้” เฉินตงมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับพึมพำกับตัวเอง “พรุ่งนี้นายมาทำงานที่ไท่ติงของฉัน จะให้ไม่ทำอะไรเลยคงไม่ได้”

เดิมทีกูหลังดูท่าทางเศร้า

แต่เมื่อได้ยินประโยคหลังของเฉินตงก็ตาโตและรู้สึกดีใจมาก “ขอบคุณคุณเฉิน!”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset