Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 89 หมู่ตึกยู่ฉวนและเทียนเก๋อ

บทที่ 89 หมู่ตึกยู่ฉวนและเทียนเก๋อ

ตอนเย็นสองทุ่ม

เฉินตงรีบไปที่ “หมู่ตึกยู่ฉวน” ที่อยู่นอกเมือง

นี่เป็นที่ของโจวเย่นชิว ซึ่งเป็นสถานที่ที่นัดกันในครั้งนี้และยังเป็นที่อยู่ส่วนตัวที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้

ไม่บอกไม่ได้ ว่าโจวเย่นชิวสามารถเรียกลมเรียกฝนจากเมืองนี้ได้จริง ๆ!

แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยเฉินตงจึงให้กูหลังมาด้วย

โจวจุนหลงเป็นคู่ต่อสู้ของโจวเย่นชิว ทั้งสองต่อสู้กันมาหลายปีโดยไม่มีใครชนะหรือแพ้ ซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของโจวจุนหลง

บนโต๊ะอาหารเย็น หากโจวจุนหลงต้องการสร้างปัญหาโจวเย่นชิวอาจจะหยุดมันไม่ได้!

แท็กซี่จอดที่ประตูหมู่ตึกยู่ฉวน

เฉินตงและกูหลังลงจากรถแล้วเดินเข้าไป

“คุณเฉินความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโจวจุนหลงเป็นไปได้จริง ๆ เหรอที่จะคืนดีกัน?”

กูหลังรู้จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ ในฐานะผู้ติดตามเขาไม่ควรถามอะไรมาก เขาอดกลั้นทุกอย่างได้แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ในที่สุดเขาก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้

ที่สำคัญที่สุดคือในเมืองแห่งนี้โจวจุนหลงถือว่าเป็นคนขึ้นชื่อเรื่องนี้อย่างมาก เขากังวลว่ามื้อเย็นในคืนนี้จะส่งผลเสียต่อเฉินตง

“ไม่มี”

เฉินตงพูดเรียบ ๆ “ไม่ว่าความแค้นจากครั้งที่แล้ว หรือการพัฒนาของไท่ติง โจวจุนหลงและฉันก็อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันตลอดมา แต่เพราะเป็นคำเชิญของโจวเย่นชิวก็คงต้องไว้หน้ากันบ้าง”

ดวงตาของกูหลังกะพริบ พูดอย่างเป็นห่วง “งั้นความปลอดภัย……..”

“หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา รีบหนีออกมาก่อน!” เฉินตงพูดอย่างเคร่งขรึม

“ทั้งสองท่าน นี่เป็นบ้านพักส่วนตัว ไม่มีคำเชิญหรือนัดล่วงหน้าไม่สามารถเข้าได้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูหยุดเฉินตงและกูหลัง

กูหลังมองอย่างเคร่งขรึม “อะไรกัน โจวเย่นชิวอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?”

สีหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไป รีบโค้งคำนับและพูด “ผมขอโทษท่านทั้งสองคน ผมไม่รู้ว่าท่านเป็นแขกของประธานโจว โปรดตามผมมา”

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หันกลับไปและพูดกับเครื่องส่งวิทยุ “เอารถมาคัน”

ไม่นานรถคันหนึ่งก็ขับออกมาจากวิลล่า

หลังจากให้เฉินตงและกูหลังขึ้นรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็วิ่งไปยังรถคันข้างหน้าเพื่อนำทาง

ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวิลล่า เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งรถคันเดียวกันกับแขกของประธานโจว

ระหว่างทางเฉินตงมองไปที่วิวของวิลล่าด้วยอย่างสนใจ

เขาเคยได้ยินชื่อ “หมู่ตึกยู่ฉวน” มาก่อนและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามา

สภาพแวดล้อมที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ บวกกับแสงไฟและควันจากลำน้ำทำให้วิลล่าในยามค่ำคืนสวยงามราวกับอยู่ในแดนสวรรค์

อาคารสไตล์โบราณหลายหลังตั้งตระหง่านและมีดวงดาวกระจายอยู่ทั่ววิลล่า

เขาใช้เวลาสิบนาทีเพื่อไปยังอาคารโบราณ

“คุณชาย ถึงแล้ว”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งมาใช้เวลาสิบนาที ก้มตัวคำนับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไม่มีหอบหายใจ

“ไปกันเถอะ”

เฉินตงพากูหลังลงจากรถ

ที่ประตู มีสาวงามสองคนในชุดกี่เพ้าสีแดงยืนอยู่

เมื่อเห็นพวกเขาเดินไป ในเวลาเดียวกันสาวงามชุดกี่เพ้าทั้งสองก็คำนับ หลังจากที่พวกเธอเงยหน้าขึ้นทั้งคู่ก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเปิดประตู

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการพูดสักคำ

แต่ท่าทางของเธอ เผยให้เห็นความสง่าอย่างมาก

นี่คือวิถีชีวิตของคนรวย?

เฉินตงมองไปที่สาวงามในชุดกี่เพ้าทั้งสอง รูปลักษณ์เช่นนี้หากเป็นข้างนอก น่าจะดึงดูดพวกทายาทรุ่นที่สองต่าง ๆ ได้แล้ว

แต่ใน “หมู่ตึกยู่ฉวน” เป็นเพียงแค่คนต้อนรับแขก!

การตกแต่งภายในที่หรูหราและคลาสสิก เสียงเปียโนที่ไพเราะ การตกแต่งด้วยหินและน้ำที่ไหลลงมา มันช่างเข้ากับเสียงของเปียโนดูเป็นศิลปะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

ถัดจากหินและน้ำ มีโต๊ะกลมที่สามารถรองรับคนได้ถึงยี่สิบคน

ไม่ไกลออกไปมีจอทีวีขนาดใหญ่

“คุณชาย โปรดรอสักครู่ ประธานโจวจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้” สาวงามในชุดกี่เพ้านำทาง นำเสียงไพเราะเหมือนนก

เฉินตงพยักหน้า หลังจากสาวงามในชุดกี่เพ้าเดินออกไปแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ม่านฝั่งตรงข้าม

กูหลังขมวดคิ้วและมองมันอย่างสงสัย

“คุณเฉินมีอะไรหรอ?”

“รวยจริง!”

เฉินตงพูดอย่างเคร่งขรึม “รวยอย่างมาก!”

กูหลังมองอย่างตกตะลึง

เฉินตงยกนิ้วขึ้นไปที่ม่านและพูดด้วยใบหน้าและหูที่แดงขึ้น “ของของหวงหวาหลี ถ้าให้พูดอีกน่าจะมีอายุหลายร้อยปีแล้วเป็นของโบราณอยู่แล้ว ภาพวาดด้านบนถ้าฉันจำไม่ผิดมันควรจะเป็นภาพวาดของเทพนักวาดอู๋เต้าจื่อ《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》มันคือสมบัติล้ำค่า!”

เขาพูดอย่างตื่นเต้น เฉินตงกระตุกปากเล็กน้อย “กลับถูกมาทำเป็นเพียงแค่ม่าน!”

ม่านตาของกูหลังกว้างขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ “นี่มันใช้ว่าดูน่าเสียดายไปหน่อยไหม?”

เฉินตงไม่อยากเชื่อ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความตกใจและจ้องไปที่ม่านนั้น

เขามีความรู้บ้างเกี่ยวกับของโบราณ ยังไงเขาก็ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีติดต่อกับผู้คนดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดมั่วได้

ภาพบนม่านเป็น《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》ไม่ใช่ของลอกเลียนแบบหรือของปลอม แต่เป็นภาพวาดของจริง!

แต่เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่า “หมู่ตึกยู่ฉวน” จะฟุ่มเฟือยถึงขนาดใช้ภาพวาดของนักบุญเป็นพื้นหลัง!

ในเวลาเดียวกันที่นอกบ้าน

โจวเย่นชิวที่เพิ่งมาถึงหน้าประตูได้ยินบางอย่างจากเฉินตงที่อยู่ข้างใน

เขารู้สึกตกใจ ส่งสัญญาณบอกให้หญิงทั้งสองเงียบ จากนั้นยิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้อง

แปะๆๆๆๆ!

มีเสียงปรบมือดังก้อง

เฉินตงและกูหลังมองกลับไป

เห็นโจวเย่นชิวเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม มือของเขายังคงตบเบา ๆ

“ใช่ได้ เฉินตงนายมีความรู้ดี แถมยังรู้จักภาพวาด《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》ด้วย

โจวเย่นชิวอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ฉันวางภาพวาดนี้ไว้ที่นี่เป็นเวลาหลายปีแล้ว มีแขกนับไม่ถ้วนที่มาและไป นอกจากเจ้าซิงหลงปรมาจารย์ด้านการวาดภาพจีนรู้จัก นายเป็นคนที่สอง!”

เฉินตงยิ้มอย่างถ่อมตัว “ประธานโจวพูดเกินไปแล้ว ฉันแค่รู้นิดหน่อย”

โจวเย่นชิวยิ้ม แต่ดวงตาของเขากลับจ้องไปที่ภาพวาดและนิ่งชั่วครู่

เขายิ้มและพูดกับเฉินตงและกูหลัง “นั่งกันก่อน โจวจุนหลงน่าจะใกล้มาถึงแล้ว”

หลังจากนั่งแล้วเฉินตงและโจวเย่นชิวก็คุยกัน

หลังจากนั้นเพียงห้านาทีที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงหัวเราะของโจวจุนหลงดังขึ้น

“ประธานโจว ครั้งนี้นายพยายามอย่างหนักเลยนะ ถึงกับยอมเปิดเทียนเก๋อของหมู่ตึกยู่ฉวน

ชื่อบ้านหลังนี้เรียกว่า “เทียนเก๋อ”

เมื่อกี้ตอนที่เฉินตงเข้ามา เขาเหลือบมองไปที่แผ่นป้ายบนกรอบประตู แต่เขาก็ไม่สนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่หมู่ตึกยู่ฉวน ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของ “เทียนเก๋อ”

โจวเย่นชิวจับจมูกของเขา ลุกขึ้นยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อประธานโจวมา แน่นอนฉันต้องเปิดที่นี่!

โจวจุนหลงเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องทั้งสอง

เมื่อได้ยินสิ่งที่โจวเย่นชิวพูดเขาก็แสร้งพูดด้วยรอยยิ้ม “ชื่นชมฉันแล้วใช่ไหม? ฉันมาที่หมู่ตึกยู่ฉวนของนายตั้งครั้งแล้ว นายเปิดเทียนเก๋อสักกี่ครั้ง? ฉันรู้กฎของเทียนเก๋อของนายดี ไม่ใช่มังกรตัวจริงมาถึง นายไม่มีทางเปิดมันง่าย ๆ !”

ในขณะที่เขาพูดเขาหันไปและยกนิ้วให้เฉินตง “เด็กอย่างนายไม่เพียงมีดี ดูเหมือนว่าจะเป็นมังกรตัวหนึ่งจริง ๆ ไม่อย่างนั้นประธานโจวจงไม่มีวันเปิดเทียนเก๋อให้นาย!”

คำพูดและการกระทำของเขาดูเหมือนว่าจะไม่เคยเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น

“ประธานโจวพูดเกินไปแล้วพูด” เฉินตงยิ้มเบา ๆ

คำพูดและการกระทำของโจวจุนหลงในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเหมือนเสือหน้ายิ้ม

แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็เข้าใจกฎของเทียนเก๋อจากคำพูดของโจวจุนหลง!

เพียงแต่ตอนที่เฉินตงคุยกับโจวจุนหลงนั้น

โจวเย่นชิวดันแว่นตาของเขาอย่างแนบเนียน มองไปที่ม่านและยิ้มเล็กน้อย………………

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset