Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 90 อุบัติเหตุทางรถยนต์? เด็กคนนั้น!

บทที่ 90 อุบัติเหตุทางรถยนต์? เด็กคนนั้น!

บนโต๊ะ ทุกอย่างดูราบรื่นมาก

ชนแก้วกัน บรรยากาศดูครึกครืน

สิ่งนี้ทำให้ทั้งเฉินตงและกูหลังต่างประหลาดใจ

ชื่อเสียงที่เกรี้ยวกราดของโจวจุนหลง เห็นชัดว่าเขาไม่มีทางปล่อยความโกรธแค้นในคืนนั้นไปได้ แต่บนโต๊ะนี้กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และชนแก้วกับเฉินตงบ่อยครั้ง

อาหารครั้งนี้นานเกินกว่าชั่วโมง

ถึงตอนที่เฉินตงเดินออกจากหมู่ตึกยู่ฉวนพร้อมกับกูหลัง เขายังไม่มีสติอยู่บ้าง

“พี่ตง…ฉันไม่เข้าใจว่าคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น”

กูหลังเมามาก อันที่จริงเหล้าของเฉินตงส่วนใหญ่เป็นเขาดื่มแทนจนหมด

เฉินตงถูใบหน้าของเขา ทำให้ตัวเองมีสติขึ้นมาหน่อย

ดวงตาของเขานิ่งลึก มีความคิดบางอย่าง “ฉันก็ไม่เข้าใจ คนอย่างโจวจุนหลงแน่นอนว่าเขาอยากแก้แค้น ไม่มีทางเป็นเพราโจวเย่นชิวถึงจะยอม แถมฐานะของฉัน ยิ่งแล้วใหญ่”

“มันแปลกจริง…” กูหลังพึมพำเดินโซเซและล้มไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตง

เฉินตงยิ้มเศร้า จากนั้นมองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่ตึกยู่ฉวน “พี่ชาย คุณช่วยพาเราไปส่งได้ไหม ที่นี่เรียกแท็กซี่ไม่ได้”

เขาแทบรอไม่ไหวที่จะซื้อรถ

รอจนเฉินตงและกูหลังนั่งรถออกไปจากหมู่ตึกยู่ฉวน

รถMaybachสีดำก็ขับออกจากหมู่ตึกยู่ฉวนอย่างช้า ๆ

บนรถ ใบหน้าโจวจุนหลงไร้รอยยิ้ม เขาจ้องไปนอกหน้าต่างอย่างเศร้า

และคนที่นั่งข้าง ๆ เขาก็คือโจวเห้า

ในคืนนี้โจวเห้ามากับโจวจุนหลง

โจวจุนหลงเรียกเขามาด้วยกัน แน่นอนว่าเขาไม่ได้มาฟังเรื่องการไกล่เกลี่ยของโจวเย่นชิว

ในเมืองนี้มีเพียงโจวจุนหลงเขาเท่านั้นที่ขอให้คนอื่นไกล่เกลี่ยกันได้ ยังไม่มีใครให้เขาทำแบบนี้ได้!

แต่หลังจากมาถึงบ้านพัก โจวจุนหลงได้รับโทรศัพท์พอดีกับที่เขาขึ้นมานั่งบนรถและเดินทางไปที่เทียนเก๋อ

“พี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เท้าของโจวเห้ายังคงใส่เฝือกอยู่ นั่งมาต้องนานแน่นอนเขาต้องปวดขาต้องแต่ช่วงแรก ๆ แล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะถาม พี่จะยอมไกล่เกลี่ยกับเฉินตงจริง ๆ เหรอ?”

“ไร้สาระ!”

โจวจุนหลงเปิดหน้าต่างคายเสมหะจากการดื่มเหล้าออกมาและพูดอย่างเย็นชา “ถ้าฉันจะไกล่เกลี่ยกับมัน ฉันจะพานายมาด้วยเพื่ออะไร? พานายมาก็เพื่อมาแก้แค้นแทนนาย!”

ดวงตาของโจวเห้าแคบลง “แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงเปลี่ยนใจล่ะ?”

โจวจุนหลงทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง เสียงของเขาเบาลง “มีคนอื่นอยู่ในเทียนเก๋อ!”

“ใคร?!”

ท่าทางของโจวเห้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

ในเมืองนี้ แม้ว่าจะเป็นโจวเย่นชิวก็ไม่กล้าที่แข็งกร้าวกับพี่ขนาดนี้ เขาคิดไม่ออกจริง ๆ มีใครอยู่ในเทียนเก๋อ ที่ทำให้พี่เขาเปลี่ยนความคิด

“อย่าถามมาก!”

โจวจุนหลงจ้องไปที่โจวเห้าอย่างดุ ทำให้โจวเห้าหน้าซีดกลัวที่จะถาม

จากนั้นโจวจุนหลงก็มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด

อันที่จริง เขาไม่รู้ว่ามีใครอีกบ้างที่อยู่ในเทียนเก๋อ

สายเข้าเมื่อกี้เป็นของโจวเย่นชิวโทรหาเขา การโทรครั้งนี้ยังเป็นเชิงสั่งให้เขาไม่ต้องแก้แค้น

ถึงพูดว่ามาไกล่เกลี่ย แต่อันที่จริงแค่ต้องการหาข้ออ้างให้เฉินตงมาที่เทียนเก๋อให้คน ๆ นั้นดู

แน่นอนในเวลาปกติแล้วโจวจุนหลงจะไม่สนคำพูดของโจวเย่นชิวและก็จะปล่อยมันผ่านไปเหมือนผายลม

แต่คำพูดประโยคหนึ่งของโจวเย่นชิวทำให้เขาเปลี่ยนใจ

“ถ้านายอยากตายก็ลงมือต่อหน้าเขาคนนั้น ถ้าเขาโกรธ แม้แต่ประมุขของเมืองนี้ก็ช่วยนายให้เดินออกจากเทียนเก๋อไม่ได้!”

คำพูดเพียงคำเดียว โจวจุนหลงลังเลและในที่สุดก็ล้มเลิกความคิดที่จะแก้แค้น

และเขาก็รู้ด้วยว่าโจวเย่นชิวเปิดเทียนเก๋อในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเขาหรือเพราะเฉินตงหรือเพราะการไกล่เกลี่ยที่ไร้สาระเช่นนี้

เทียนเก๋อถูกเปิดขึ้นเพราะคนในเทียนเก๋อคนนั้น!

“เหอะ!”

ทันใดนั้นโจวจุนหลงก็ยิ้มและเลิกคิ้วมองโจวเห้า “เป็นไปไม่ได้ เฉินตงใช่ว่าอยู่ข้างหน้าเราใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว เจ้านั้นเป็นคนแปลกจริง เป็นถึงเจ้าของไท่ติงแต่กลับไม่มีรถ ตอนที่อยู่หน้าประตู ฉันก็เห็นเขาขอให้คนจากหมู่ตึกยู่ฉวนไปส่งเขา” โจวเห้าดูไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ้าง

โจวจุนหลงลูบหัวล้านของเขา ยิ้มพูดว่า “รถของฉันไม่ได้เกิดอุบัติเหตุมานานแล้ว!”

หลังจากพูดจบเขาก็ถีบเบาะหลังคนขับ “ขับเร็วกว่านี้ จนเกิดอุบัติเหตุ!”

“รับทราบ พี่หลง”

ดวงตาของโจวเห้าสว่างขึ้น เขามองไปที่โจวจุนหลงอย่างตื่นเต้น “พี่ พี่วางแผนที่จะล้างแค้นให้ฉันใช่ไหม?”

โจวจุนหลงตบหัวเสียงดังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “แก้แค้นอะไรกัน? นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกะทันหันก็เท่านั้น”

“ใช่ ใช่ มันเป็นอุบัติเหตุ อุบัติเหตุที่มีความรุนแรงมาก ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” ดวงตาของโจวเห้ากลอกไปมา เขาก็ตอบอย่างมีความสุข

Maybachสีดำส่งเสียงคำราม ราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายและพุ่งไปด้านหน้าทันที

ในเวลาเดียวกัน

หมู่ตึกยู่ฉวนภายในเทียนเก๋อ

โจวเย่นชิวพิงตัวบนเก้าอี้ ถือชาอุ่น ๆ ไว้ในมือ

เมื่อกี้ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงเขาดื่มเหล้าจำนวนมาก

แต่จากปริมาณแอลกอฮอล์ที่ได้รับ เขาเมาแค่เล็กน้อย

หลังจากดื่มชาสร่างเมาแล้ว เขาก็ฟื้นตัวได้ไม่น้อย

เขาถอดแว่นกรอบทอง ยกมือขึ้นนวดบริเวณดวงตาและจมูก

จากนั้นโจวเย่นชิวก็ยิ้มและถาม “รู้สึกยังไงบ้าง?”

เทียนเก๋อที่ใหญ่โต ในเวลานี้เสียงของเปียโนได้หยุดลงแล้ว มีเพียงเสียงน้ำไหลลงมา

เห็นได้ชัดมีเพียงโจวเย่นชิวแค่คนเดียว แต่เขากำลังถาม

“อืม”

บรรยากาศที่เงียบ มีเสียงหนึ่งที่เย็นชาไม่มีใครเทียบได้ส่งออกมาจากด้านหลังม่าน

หลังจากนั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดธรรมดา สูงประมาณหนึ่งเมตรเจ็บสิบเดินออกมาจากด้านหลังม่านช้า ๆ

เขาอายุประมาณสามสิบต้น ๆ หน้าตาธรรมดาสวมแว่นขอบดำ ให้ความรู้สึกถึงความสุภาพ…และซื่อสัตย์

เป็นคนที่เมื่อโยนเขาไปในกลุ่มคนก็จะกลืนกินไปจนไม่สามารถหาพบได้แบบนั้น

ดวงตาคู่เดียวภายใต้กรอบแว่นสีดำนั้นสว่างมาก สายตาแหลมคมไม่มีใครเทียบได้

ชายหนุ่มเดินไปที่โต๊ะช้า ๆ นั่งลงมองโต๊ะที่เต็มไปด้วยจานอาหารโดยไม่รังเกียจ เขาหยิบชามข้าวและยกขึ้นมากิน

“ฉันให้พวกเขาเตรียมมาให้คุณใหม่อีกครั้ง คุณกินพวกนี้มันเกินไป” โจวเย่นชิวมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ

“ไม่เป็นไร”

ชายหนุ่มคนนี้กินข้าวอย่างช้า ๆ ทุกการเคลื่อนไหวเผยให้เห็นความรู้สึกสบาย ไม่ได้รู้สึกถึงความเชื่องช้าหรือผิดปกติ พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก

โจวเย่นชิวไม่ได้ห้าม แต่พูดด้วยรอยยิ้ม

“เมื่อกี้คุณนิ่งสงบจริง ๆ ตอนที่เฉินตงสังเกตเห็นม่านนี้ ฉันคิดว่าเขาเห็นคุณแล้ว”

“ถ้าเห็นแล้วก็เห็นไป”

ชายหนุ่มมองอย่างไม่แยแส

ก่อนที่เฉินตงและคนอื่น ๆ จะเข้าไปในเทียนเก๋อ เขาก็นั่งรออยู่หลังม่านแล้ว แอบมองเขาผ่าช่องเล็ก ๆ เพื่อเขาจะได้มองเห็นทุกอย่างบนโต๊ะอาหาร

เนื่องจากตำแหน่งของม่าน ผู้คนภายนอกสามารถมองเห็นมันได้ แต่จะมองไม่เห็นความมืดที่อยู่ด้านหลังของม่านนี้ได้

ถึงแม้เฉินตงจะสังเกตเห็นม่านนี้ เขาก็ยังสามารถสบตาเฉินตงผ่านช่องว่างได้

เขาไม่รู้สึกตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ในชีวิตเขาดูเหมือนว่าเขาไม่เคยเห็นความตื่นตระหนกใด ๆ และตั้งแต่ต้นจนจบเขาจะสงบนิ่งอย่างมาก

“คุณนิ่งเสียจริง โชคดีที่เมื่อกี้ฉันเร็ว ฉันถึงได้เข้าไปมีส่วนร่วมใน《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》 ไม่เช่นนั้นก็คงปล่อยให้เขามองต่อไปเรื่อย ๆ เดาว่าไม่แน่อาจจะเห็นคุณเข้าได้”

โจวเย่นชิวสวมแว่นตาสีทองอีกครั้งและมองไปที่คน ๆ นั้น

จากประสบการณ์ของเขา เขาไม่เคยเห็นคนที่นิ่งได้ขนาดนี้มาก่อน

“ผู้ที่ทำการณ์ใหญ่ แม้ไท่ซานจะถล่มอยู่ตรงหน้าก็ไม่หวั่นไหว!”

ชายหนุ่มวางชามและตะเกียบลงอย่างใจเย็น จากนั้นมองโจวเย่นชิวด้วยสายตาเหมือนนกอินทรี “นายพูดกับฉันแบบนี้ ใช่ต้องการอะไรจากเรื่องนี้หรือเปล่า?”

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset