Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา – ตอนที่ 91 สู้กันจนตายไปทั้งสองข้าง

บทที่ 91 สู้กันจนตายไปข้าง

สีหน้าโจวเย่นชิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ม่านตาหดเล็ก

ถูกวัยรุ่นจ้องมอง ด้วยความมุ่งมั่นของเขา หัวใจอดที่จะเต้นแรงขึ้นมาไม่ได้

ยึดเครดิต?!

ล้อเล่นบ้าอะไร!

เขาโจวเย่นชิวคือฮีโร่ของเมืองนี้ ในวงการธุรกิจไม่เคยมีคู่แข่ง เขาจะเป็นต้องยึดเครดิตของใคร?

“หื้ม?”

วัยรุ่นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม

โจวเย่นชิวนวดขมับ ก้มหน้าลงยิ้มแล้วพูดขึ้น:“ใช่แล้ว”

“ไม่รีบร้อน” วัยรุ่นหันหน้าไปด้านหลัง มองออกไปนอกบ้าน

สัมผัสได้ถึงสายตาของวัยรุ่นที่เหลือบไปมองทางอื่น โจวเย่นชิวรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที ลอบคลายกังวล

ถึงแม้เขาจะเป็นฮีโร่ แต่เขาก็ไม่เคยเห็นแววตาที่คมชัดแบบนี้มาก่อน!

อีกด้านหนึ่ง

บนถนนที่กว้างขวาง

รถเบนซ์คันสีดำค่อยๆขับเข้ามา

คนขับรถคือผู้จัดการของหมู่ตึกยู่ฉวน

แขกที่สามารถถูกโจวเย่นชิวเชิญมาเทียนเก๋อ ในฐานะผู้จัดการ เขาเข้าใจความสำคัญของสองคนที่อยู่ด้านหลังเป็นอย่างดี

ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้จัดการวัยกลางคนขับรถด้วยความระมัดระวัง กลัวว่าหากขับรถได้ไม่ดี จะส่งผลต่อการพักผ่อนของแขกวีไอพีทั้งสอง

เฉินตงนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง มองดูแสงไฟสลัวถอยหลังนอกหน้าต่าง ครุ่นคิดพิจารณา

กูหลังนั่งพิงอยู่ตรงที่นั่งด้านหลังด้วยความมึนเมา

ทันใดนั้นเอง ตัวของกูหลังสั่นเทา หน้าอกกระเพื่อมขึ้นมา

“แอว๊ะ~”

สิ่งสกปรกที่เคล้าไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ถูกกูหลังอาเจียนออกมา

เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้เฉินตงและผู้จัดการที่กำลังขับรถอยู่นั้นตกใจเป็นอย่างมาก

เฉินตงรีบตบหลังกูหลัง ทำแบบนั้นช่วยให้กูหลังรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

เหล้าในคือนนี้ ถูกกูหลังรับเอาไว้ไปกว่าครึ่ง กูหลังดื่มไปมากจริงๆ

“คุณเฉิน ผม ผมไม่เป็นอะไร……”

สีหน้าของกูหลังเขียวช้ำ เพียงแค่พูดออกมา คอหอยพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง อาเจียนเอาสิ่งสกปรกออกมามากมาย

“ไม่เป็นไร อ้วกแล้วถึงจะรู้สึกดีขึ้น” เฉินตงไม่ได้รู้สึกว่าการดูแลกูหลังมีอะไรไม่เหมาะสม

เป็นคนที่เดินออกมาจากความมืดอยู่แล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต ความลำบากอะไรบ้างที่ไม่เคยพบเจอ ถึงแม้ฐานะในตอนนี้จะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้เขาลอยล่องขึ้นไปบนก้อนเมฆในระยะเวลาสั้นๆ

แต่การกระทำแบบนี้ ในสายตาของกูหลัง กลับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่!

เขากำลังจะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง หางตากลับเห็นแสงไฟสองดวง

แทบจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ กูหลังหันไปมองด้านหลัง

ภายใต้แสงไฟส่องสว่าง ดวงตาของเขาอดไม่ได้ที่จะหรี่เล็กลง

แต่ในความหมองหม่น ยังพอจะสามารถมองเห็นได้ รถคันสีดำ กำลังขับพุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว มุ่งมายังรถที่พวกเขานั่ง ไม่มีท่าทีจะหลบแม้แต่น้อย!

“แย่แล้ว!คุณเฉิน มีรถกำลังพุ่งเข้ามา!”

กูหลังแทบจะตัดสินใจได้ในทันที พยายามอดกลั้นความวิงเวียน ร้องตะโกนบอกกับเฉินตง

ภายในรถ แววตาเฉินตงหลอมรวมเข้าด้วยกัน มองผ่านกระจกด้านหลังรถ

แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาเองก็ตัดสินใจแล้ว

รถยนต์ด้านหลังไม่ได้ขับแบบปกติ แต่ว่า……พุ่งมาที่พวกเขา!

อีกทั้ง เขาพอจะมองเห็นโลโก้บนรถยนต์ไมบัคที่อยู่ด้านหลัง!

“โจวจุนหลง?”

ภายในใจของเฉินตงชักกระตุกครู่หนึ่ง หันไปพูดกับผู้จัดการที่ขับรถ:“พี่ชาย ช่วยขับรถเร็วหน่อย รถคันด้านหลังกำลังพุ่งชนมาแล้ว”

“เป็น เป็นแบบนี้ได้ยังไง? เมื่อกี้คุณเฉินเพิ่งดื่มเหล้ากับคุณโจวไม่ใช่หรอครับ?”

ผู้จัดการตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี แววตาสับสนเล็กน้อย

เขาเป็นแค่ผู้จัดการ ไม่รู้ความสัมพันธ์ของเฉินตงและโจวจุนหลง

แต่ว่า กลัวก็ส่วนกลัว ผู้จัดการเหยียบคันเร่งจนมิด ความเร็วของรถเบนซ์พุ่งทะยานขึ้นสูง

“ตามมาแล้ว ตามมาแล้ว……”

กูหลังยังคงฟุบอยู่นอกหน้าต่างตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูรถไมบัคที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อีกทั้งยังเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ร้องตะโกนด้วยความกังวล:“เร็วหน่อย ขับเร็วกว่านี้อีกหน่อย!”

บนหน้าผากของผู้จัดการมีเหงื่อผุดออกมา คว้าจับพวงมาลัยรถยนต์แน่น คล้ายกับว่าใช้พลังทั้งหมดในการเหยียบคันเร่ง

ทว่าถึงแม้จะเป็นรถเบนซ์เหมือนกัน แต่ราคากลับต่างกันหลายล้านหยวน!

มีเพียงเฉินตง นั่งนิ่งเงียบอยู่ด้านหลัง แววตาคมคาย ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

บนรถยนต์ไมบัค

ฟังเสียงของเครื่องยนต์ที่ดังระงม รับรู้ได้ถึงความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้น เลือดของโจวเห้าพลุ่งพล่านขึ้นมา

เขาลืมความเจ็บที่เท้าไปจนหมด นั่งอยู่ตรงกลาง มองดูรถเบนซ์ด้านหน้าที่ขับใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แววตาแดงก่ำ:“ชนเข้าไป ชนเข้าไปแรงๆ ชนให้ตาย!”

โจวจุนหลงที่อยู่ด้านข้างนั่งพิงเก้าอี้พร้อมกับหัวเราะเหี้ยมโหด มือขวาลูบจับผมล้าน:“ในเมืองนี้ นอกจากโจวเย่นชิว ยังไม่เคยมีใครกล้าท้าทายฉันโจวจุนหลง!”

ขณะพูด เขาก็ตบโจวเห้าที่กำลังได้ใจ:“นายทำตัวนิ่งๆหน่อย นั่งให้ดี เดี๋ยวชนเข้าไปแล้ว ทำให้ขาอีกข้างของนายหักหรอก”

“จริงด้วยๆๆ พี่ตักเตือนได้ถูกต้อง”

โจวเห้าตระหนักรู้ขึ้นมาทันที รีบกลับไปนั่งประจำตำแหน่ง รัดเข็มขัดนิรภัย

โจวจุนหลงทั้งหัวเราะทั้งพูด:“หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมโทรหารถฉุกเฉิน พวกเราประสบอุบัติเหตุรถชน จะไม่สนใจคนที่ถูกรถชนได้ยังไง”

“จริงด้วยๆๆ เดี๋ยวชนเมื่อไหร่ผมจะรีบโทรทันที” โจวเห้าดีใจจนหน้าแดง เมื่อคิดว่าเดี๋ยวรถด้านหน้าจะถูกชน ภายในใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง

ภายในรถเบนซ์

“คุณเฉิน อยู่ห่างไม่เกินห้าเมตรแล้วครับ!”

กูหลังกลับเข้ามาในรถ เขาร้อนใจราวกับมดในกระทะ อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงนั่งบนโซฟา:“ขับรถอีกหน่อย!”

“ผม ผมขับเร็วที่สุดแล้วครับ” ผู้จัดการพูดเสียงสะอื้น

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง ส่งแขกวีไอพีในคืนนี้ กลับพบเจอกับเรื่องซวยๆแบบนี้

จากการขับรถในตอนนี้ เมื่อถูกชนแล้ว รถยนต์ไมบัคด้านหลังจะทำยังไงเขาก็ไม่รู้

แต่รถเบนซ์ที่พวกเขาขับในตอนนี้ แทบจะบินอยู่แล้ว!

กูหลังพูดด้วยหน้าดำหน้าแดง กำลังจะร้องโอดครวญ

มือของเฉินตง วางลงตรงหัวไหล่ของกูหลัง:“ไม่เกี่ยวกับเขา รถเบนซ์ รถไมบัค ราคาแตกต่างกันหลายล้านหยวน ไม่สามารถหนีพ้นหรอก”

สีหน้าของกูหลังเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หันไปมองเฉินตงด้วยความตกตะลึง

เฉินตงในเวลานี้ ยังคงนิ่งงัน อารมณ์ของเขานิ่งราวกับน้ำในบ่อบาดาล

“คุณเฉิน…….” ความกระวนกระวายของกูหลังสงบลงเล็กน้อย

“ฟู่……”

เฉินตงพ่นลม ถูหน้าไปมา:“เดิมพันสักตั้ง ในพจนานุกรมของฉันไม่มีคำว่ารอตายสองคนนี้ หรือต่อให้มี ก็ต้องสู้กันจนตายไปทั้งสองข้าง!”

เขาฟุบนอนอยู่บนเก้าอี้คนขับ พูดกับผู้จัดการ:“ฟังที่ผมสั่ง”

พูดจบ เขาก็หันไปพูดกับกูหลัง:“ช่วยผมดูระยะห่างหน่อย”

“ไม่มีปัญหา!”

กูหลังรีบรับคำทันที หันไปมองรถยนต์ด้านหลัง:“ยังห่างออกไปอีกสามเมตรครับ!”

เฉินตงไม่ได้ขยับ หน้าผากของผู้จัดการมีเหงื่อไหลออกมา

“ยังเหลืออีกสองเมตร” เสียงของกูหลังสั่นเทาเล็กน้อย

ข้างหู มีเสียงลมดังขึ้นไม่หยุด และเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ทั้งสองคัน

เฉินตงยังคงไม่ขยับ แต่มือของผู้จัดการกลับสั่นเทาอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้

“ใจเย็น ถ้าไม่ใจเย็น พวกเราก็จะตาย” เฉินตงบอกกับผู้จัดการด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ

“ยังเหลืออีกหนึ่งเมตร!”

สิ้นเสียง ด้านหลังมีเสียงร้องตะโกนของกูหลังดังขึ้น

ชั่วขณะนั้น ดวงตาลุ่มลึกของเฉินตงฉายแสงทอประกายออกมา

มือขวาของเขาคว้าจับแขนของผู้จัดการแน่น:“หมุนพวงมาลัยไปทางซ้าย!”

เอี๊ยด!

ท้ายรถเบนซ์สะบัดอย่างแรง ท่ามกลางความตกใจของผู้จัดการ ระหว่างที่รถยนต์หมุนอยู่นั้นเขาก็เหยียบเบรก

อย่างรวดเร็ว

ด้านหน้าของรถยนต์ไมบัคราวกับเขาของละมั่ง พุ่งมายังท้ายรถเบนซ์ คล้ายกับลูกธนู พุ่งมาด้านหน้า

“สำเร็จแล้ว!”

กูหลังและผู้จัดการร้องตะโกนพร้อมกัน

“เหยียบเบรก!”

สีหน้าเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างมาก ร้องตะโกนด้วยความโมโห

ท่ามกลางความเร่งรีบของผู้จัดการ รีบเหยียบเบรกทันที

ครืน!

ท้ายรถเบนซ์ที่สะบัดอย่างแรง เคลื่อนย้ายไปบนถนนตามแรงเหวี่ยง ชนเข้ากับราวกั้นข้างทาง

ในเวลาเดียวกัน

รถยนต์ไมบัคที่ขับพุ่งไปด้านหน้า ก็เกิดขึ้นกะทันหัน

เสียงดังครืน!

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา

บทนำ เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม เรื่องย่อ “ขอโทษครับคุณเฉิน ระยะมะเร็งตับของแม่ของคุณ…..” มองคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าส่ายหน้า เฉินตงมึนงงไปชั่วขณะ ในพริบตาดวงตาก็กลายเป็นสีแดง ตั้งแต่เล็กจนโต เขากับแม่พึ่งพาอาศัยกัน เพื่อที่จะส่งให้เขาเรียนหนังสือ แม่ทำงานจนป่วย ไม่ทันที่จะได้สะดวกสบาย ก็ตกลงมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้แล้ว “คุณหมอ ขอร้องล่ะครับ ช่วยแม่ผมด้วย แค่หนทางสักนิดก็ไม่มีแล้วเหรอครับ?” เสียงของเฉินตงแหบแห้งยังมีเสียงสะอื้นปนอยู่ คุณหมอลังเลอยู่ชั่วครู่ กล่าวขึ้น “ยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ ก็คือทำการเปลี่ยนถ่ายตับ ตอนนี้ทางแพทย์มีของอยู่พอดี…..” ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็มองเฉินตงตั้งแต่หัวจรดเท้า การรักษาที่ยาวนาน ทำให้เขารู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฉินตงดี แต่ เขาก็ยังพูดออกมา “แต่ว่า…..ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยนะครับ อย่างน้อยๆในช่วงแรกก็ประมาณสองแสน” สองแสน? ดวงตาของเฉินตงวาววับ รีบจับมือของคุณหมอเอาไว้ “รักษา จะต้องรักษานะครับ ผมยังมีอีกสองแสน!” เงินไม่มีแล้วยังหาได้ แต่ว่าไม่มีแม่แล้ว ก็ไม่สามารถหาได้อีกแล้ว “อย่างนั้นคุณก็รีบๆรวบรวมเงิน ถ้าเกิดว่ายังประวิงเวลาออกไปอีก วิธีปลูกถ่ายตับก็หมดหนทางแล้ว” นายแพทย์พยักหน้า ถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วก็หมุนตัวจากไป เดินออกมาจากโรงพยาบาล ท้องฟ้ามีฝนเม็ดเล็กๆโปรยลงมา เฉินตงรีบร้อนกลับบ้าน ภรรยา หวางหนันหนันกำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา แถมในปากยังกินขนมมันฝรั่งทอดอยู่อีกด้วย เธอเหลือบมองเฉินตง หวางหนันหนันว่าขึ้น “แม่ดีขึ้นบ้างไหม?” “หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าสามารถเข้ารับการปลูกถ่ายตับได้ ก็ยังมีทางรักษา” เฉินตงพูดขึ้นอย่างดีใจราวกับคว้าเอาหญ้ากอสุดท้ายที่ใช้รักษาชีวิตเอาไว้ได้ “ต้องใช้สองแสน ยังดีที่บ้านของเรายังพอมีอยู่ แม่ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง” พูดไป เขาก็หมุนตัวเข้าไปหยิบเอาบัตรธนาคารในห้อง ในพริบตาสีหน้าของหวานหนันหนันก็เปลี่ยนไป รีบร้องขึ้น “เฉินตง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เฉินตงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ หมุนตัวหันกลับมามองหวางหนันหนัน “เงินล่ะ?” หวางหนันหนันวิตกกังวล อึกๆอักๆไม่พูดออกมา “เอาไปให้ที่บ้านคุณอีกแล้วเหรอ?” เฉินตงเลิกคิ้ว รอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นช่างดูขมขื่นจนหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ ฝีเท้าของเขาก้าวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง หยิบซองบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา “แช๊ะ” จุดบุหรี่มวนนึงขึ้น ดูดบุหรี่เข้าปอดแรงๆ ทิ้งร่างนอนพาดอยู่บนโซฟา แต่งงานมาสามปี เรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ และมันไม่ใช่ครั้งแรก “หนันหนัน นี่เป็นเงินที่เอาไว้ใช้รักษาแม่ผม” เฉินตงพูดขึ้นอย่างอ่อนล้า “ขอคืนมาได้ไหม?” “ขอคืนมา?” คิ้วของหวางหนันหนันกระตุกขึ้น ตวาดออกมาเสียงแหลม “เฉินตง คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเอาเงินเล็กๆน้อยๆไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่ฉัน จะมีหน้าที่ไหนไปขอกลับมาห้ะ?” เฉินตงข่มสีหน้าและอารมณ์ให้เย็นลง แล้วว่าขึ้น “โรงพยาบาลบอกว่าตอนนี้มีตับที่เข้ากันได้อยู่พอดี ถ้าสามารถเอาเงินไปให้โรงพยาบาลได้ในทันที โรงพยาบาลก็สามารถที่จะเริ่มทำการผ่าตัดปลูกถ่ายตับให้แม่ผมได้เลย จากสถานการณ์ของแม่ผมในตอนนี้ คงจะทนได้อีกไม่นาน” “ฉันไม่สนใจ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณเอง คุณก็ไปหาทางเอาเอง” ในทันใดหวางหนันหนันก็ร้องเริ่มร้องไห้เสียงดัง น้ำตาไหลนอง “ภายในเวลาสั้นๆผมจะไปหาเงินสองแสนมาจากไหน?” เฉินตงรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว กึ่งหนึ่งคือการขอร้อง “หนันหนัน ช่วยผมครั้งหนึ่ง ขอคืนมาเถอะนะ แม่ของผมยังรอเงินสองแสนนั่นมาช่วยชีวิตอยู่นะ!” “เฉินตง! เงินนั่นให้แม่ฉันไปแล้ว ฉันไม่มีทางที่จะไปขอกลับมา” หวางหนันหนันร้องไห้ไปแล้วทรุดนั่งลงบนพื้น ทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาไหลออกมา “แม่ของคุณก็กำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะเอาเงินไปผลาญทิ้งที่โรงพยาบาลอีก ตกลงคุณเคยคิดถึงครอบครัวพวกเราบ้างหรือเปล่า?” ร่างกายของเฉินตงสั่น ความโกรธมากระจุกรวมกันอยู่ที่ลำคอของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ของหวางหนันหนันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณไม่โทร ผมโทร!” ไม่รอให้หวางหนันหนันขัดขวาง สายโทรออกก็โดนรับสาย “แม่ครับ หนันหนันเพิ่งจะให้เงินแม่ไปสองแสนใช่ไหมครับ?” เฉินตงขอร้อง “ขอร้องล่ะครับช่วยคืนเงินสองแสนให้ผมได้ไหม นั่นเป็นเงินที่จะใช้รักษาแม่ผม แม่ผมท่านยังรอรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นะครับ” อีกฝั่งของสาย อยู่แม่ยายก็ตวาดขึ้น “เฉินตงแกพูดจาบ้าบออะไรออกมา? เงินนั่นเป็นเงินที่หนันหนันแสดงความกตัญญูต่อพวกเรา แกยังมีหน้าจะมาขอเงินกลับไปอีก? ในตอนนั้นหนันหนันอยากจะแต่งงานกับแก พวกเราก็ไม่เห็นด้วย จากสภาพของแก ก็เป็นเพราะหนันหนันหน้ามืดตามัวถึงได้ยอมแต่งงานกับแก” “ในตอนนี้หนักกว่านั้นอีก หนันหนันมีใจอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ เอาเงินมาให้พวกเราสองคนใช้ ชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)อย่างแกยังกล้าที่จะบากหน้ามาขอเงินกลับไป ฉันจะบอกแกให้นะ หวางเห้ากำลังจะแต่งงานแล้ว เงินนั่นพวกเราเตรียมจะเอาไปวางดาวน์ค่าบ้านงวดแรกให้หวางเห้า อยากได้เงิน? แค่แดงเดียวก็ไม่มี!” ปัง! สายตัดไปแล้ว เฉินตงแน่นิ่งไป แม่ยายนี่ฟังในสิ่งที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือยังไง? “เฉินตง คุณเป็นบ้าเหรอ?” หวางหนันหนันกระชากคอเสื้อของเฉินตงราวกับคนบ้า “คุณทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ลงไปได้ยังไง ฉันเอาเงินไปให้พ่อแม่ฉัน ทำไมคุณต้องทำเหมือนมันฟ้ามันจะผ่าลงมาให้ได้?” เฉินตงมองหวางหนันหนันอย่างหดหู่ ดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกคุณ ชีวิตของแม่ผม ยังไม่มีค่าเท่ากับเงินดาวน์บ้านงวดแรกของน้องชายคุณอย่างนั้นเหรอ?” “ไร้สาระ!” หวางหนันหนันปล่อยมือจากเฉินตง หยิบของในห้องขึ้นมาแล้วก็เขวี้ยงปาข้าวของจนเละเทะ ในพริบตา ห้องรับแขกก็รกและยุ่งเหยิงไปหมด หวางหนันหนันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา “เฉินตงคุณมันคนใจดำ ตอนนั้นทำไมฉันถึงได้แต่งงานกับคุณนะ เพื่อแม่ของคุณ คุณทุ่มเททิ้งเงินไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ฉันยอมอดทนลำบากมากับคุณ แม้แต่บ้านที่อยู่ก็ต้องเช่า คุณเคยสงสารฉันบ้างไหม? เสี่ยวเห้าเป็นน้องชายของฉัน แล้วก็เป็นน้องของคุณด้วย เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันเป็นถึงพี่สาว จะช่วยฉันบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ?” “ช่วยคุณสักครั้ง?” เฉินตงโมโหสุดขีด “พวกเราแต่งงานกันมาสามปี คุณช่วยหวางเห้าไอ้สวะนั่นไปตั้งเท่ากี่ครั้งแล้ว? ไอ้สวะหวางเห้ามัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบจนชีวิตไม่ก้าวหน้า ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านเกาะพ่อแม่กิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพวกคุณ!” “อย่ามาพูดถึงน้องชายฉันแบบนั้นนะ!” หวางหนันหนันใบหน้าบิดเบี้ยว ยืนชี้หน้าเฉินตงด้วยท่าทางป่าเถื่อนพร้อมพูดข่มขู่ เฉินตงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ทำไมถึงจะพูดไม่ได้? เรียนมหาลัยก็ไปทำคนอื่นท้อง เงินที่ชดใช้ก็เป็นเงินของผม เขาอยากจะซื้อรถก็เป็นผมที่จ่ายเงินซื้อให้เขา ในสามปีนี้ทั้งในที่ลับและที่แจ้งผมจ่ายเงินให้เขาไปตั้งเท่าไหร่? คุณมันปีศาจฝูตี้(ผู้หญิงที่มีน้องชายและต้องช่วยน้องชายในทุกด้านเพราะพ่อแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว) คุณต่างหากที่ไม่เคยคิดถึงครอบครัวของเรา!” “กรี๊ด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” หวางหนันหนันหวีดร้องออกมาเสียงแหลม “แกหมายความว่ายังไง? แกไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม?” “พวกคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ผมไปซื้อบ้านให้ไอ้สวะ ไม่สนใจไยดีแม่ผม คนที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกันต่อมันเป็นคุณต่างหาก!” เฉินตงยักไหล่ พูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “หย่ากันเถอะ!” หวางหนันหนันนิ่งไปในทันที “มึง มึงพูดว่าอะไรนะ?” แต่งงานมาสามปี ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฉินตงไม่เคยพูดจาอะไรแบบนี้ออกมา “หย่ากันเถอะ” เฉินตงบอก “แต่งงานกับผมมันทำให้คุณลำบากมาก ผมเองก็ไม่เหมาะกับคุณ ครอบครัวนี้ของคุณ ผมแบกไม่ไหว” พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกไป เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สามปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งที่อดทน ก็เป็นเพราะคิดว่าในตอนนั้นหวางหนันหนันแต่งกับเขา ความจริงแล้วก็นับว่าเธอยอมลดตัวลงมาแต่งกับเขา อีกอย่างหวางหนันหนันก็ยังมีความรู้สึกดีๆต่อเขาบ้าง แต่ว่าครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รอจนเฉินตงออกไปจากบ้านแล้ว ในที่สุดหวางหนันหนันก็ได้สติ เธอรีบพุ่งตัวไปหยิบโทรศัพท์มาโทรหามารดาด้วยความวิตกและไร้สติ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วว่าขึ้น “แม่…..เฉินตงอยากจะหย่ากับหนู” “ไอ้ชั่วนั่นอยากจะขอหย่ากับแก?” อีกฝั่งของสาย เสียงตวาดของมารดาดังขึ้น “หย่าก็หย่า! มันก็แค่ไอ้คนจน ยังจะกล้ายกหางตัวเองอวดเบ่ง คิดว่าตัวเองแน่นักนะ! เงินสองแสนสุดท้ายนั่นยังไงก็อยู่ที่พวกเราแล้ว มันจะหย่ากับแก อย่างนั้นก็สงเคราะห์มันไป ให้มันไปนั่งร้องไห้กับแม่แก่ใกล้ตายของมันไปเสีย” ณ ขณะนี้ เวลานี้ เฉินตงออกเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าในตอนกลางคืน มีฝนเม็ดเล็กๆโปรยปรายลงมา ทำให้ตัวของเขาเปียกไปทั้งตัว เขาส่ายหัวอย่างกลัดกลุ้ม เอาเท้าเตะน้ำที่ขังนองอยู่ข้างทาง เงิน เงิน เงิน แม่งทะเลาะกันก็เพราะเงิน! ตอนนี้มีเรื่องกับตระกูลหวางจนต่อกันไม่ติดแล้ว กูแม่งจะไปหาเงินสองแสนนั่นมาจากไหนกันวะ? ฝืด……. ในเวลานี้ รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมคันหนึ่งก็หยุดลงตรงข้างตัวของเฉินตง กระจกของรถถูกเลื่อนลง ชายชราคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดราชวงศ์ถังมีมองมาที่เฉินตงด้วยใบหน้าที่แต้มไว้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นคุณชายเฉินตงใช่ไหมครับ? เชิญขึ้นรถครับ ไปโรงพยาบาลลี่จิงกับผม” คุณชาย ?! เฉินตงมองชายชราตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง นานนับชั่วขณะหนึ่งที่ชะงักไป ชายชรายิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่ของคุณกำลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอยู่ที่โรงพยาบาลครับ”

Options

not work with dark mode
Reset