(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! – ตอนที่ 48

อารัมภบท เล่ม 4

 

หนึ่งปีหลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษา

 

ในคฤหาสน์เบนฟิลด์ ตอนนี้โรเซตต้ากำลังสวมชุดสาวใช้อยู่

 

เธอวางอุปกรณ์ทรงกลมสำหรับทรงตัวบนหัวของเธอขณะเดินไปตามเส้นสีขาว

 

ผมสีบลอนด์ยาวที่ม้วนเป็นลอนดูโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อรวมกับชุดสาวใช้สีน้ำเงินเข้ม

 

ท่าทางของเธอดูเคร่งเครียดเพราะกำลังจดจ่ออยู่กับการเดิน

 

เซเรน่ากำลังสั่งสอนโรเซตต้าอยู่

 

เธอปรบมือเพื่อเร่งฝีเท้าที่ช้าของลูกศิษย์

 

“คุณเดินช้าแบบนี้เมื่อไหร่จะถึง? เดินให้เร็วขึ้นอีก”

 

ปัจจุบัน โรเซตต้าเป็นคู่หมั้นของเลียม แต่อีกไม่นานเธอก็จะเป็นภรรยาของเขา

 

แม้ว่าตำแหน่งของเธอจะสูงกว่าเซเรน่า แต่ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่านักเรียน ขณะที่เข้ารับการฝึกมารยาทในคฤหาสน์

 

เซรีน่าเข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบทเรียนดำเนินต่อไป  

 

โรเซตต้าเริ่มหลั่งน้ำตา และล้มตัวลง

 

“ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย!”

 

เซเรน่ามองเธอด้วยใบหน้าผิดหวัง

 

“–ดิฉันต้องบอกคุณกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ? โรเซตต้า คุณต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเป็นคู่สมรสที่เหมาะสมกับท่านเลียม”

 

แต่โรเซตต้าไม่ได้ร้องไห้เพราะการฝึกที่หนักหน่วง

 

ชีวิตของเธอเมื่อก่อนมันแย่กว่านี้มาก เมื่อเทียบกับอะไรแบบนี้

 

แน่นอนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอพึ่งถูกกดดันให้เรียนรู้ เช่น มารยาท แต่เธอก็ยังทนได้

 

แต่ปัญหาที่แท้จริงของสถานการณ์นี้คือ… เลียม

 

“ฉันอยากเข้าสถาบันพร้อมกับที่รักนี่นา!”

 

ตอนนี้เลียมเข้าเรียนในสถาบันการทหาร

 

เขาลากวอลเลซไปกับเขาทั้งๆ ที่วอลเลซประท้วง และปัจจุบันทั้งสองอยู่ไกลจากอาณาเขตแบนฟิลด์

 

“ในตอนที่ฉันออกจากแคปซูลการศึกษา ที่รักก็ลงทะเบียนเรียนในสถาบันโดยไม่มีฉัน!”

 

เซเรน่าตอบอย่างใจเย็น

 

“ดัชเชสในอนาคตไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางทหาร ท่านหญิงโรเซตต้าตอนนี้คุณต้องมีความสามารถในการจัดการเรื่องในบ้านมากกว่า”

 

มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับขุนนางชายที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพหรือเจ้าหน้าที่ทางทหาร แต่ผู้หญิงนั้นไม่จำเป็น

ต่อให้มีผู้หญิงบางคนที่ไปเป็นทหาร แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อย

 

มันไม่ใช่การเลือกปฏิบัติเพราะพวกเขาเป็นผู้หญิง มันเป็นเพียงเพราะมีผู้หญิงไม่มากที่จะลงสมัคร

 

“ฉันแค่อยากจะอยู่ข้างๆเพื่อช่วยที่รัก…”

 

เมื่อเห็นน้ำตาของโรเซตต้า เซเรน่าทั้งประทับใจและประหลาดใจ

 

(ทัศนคติที่เต็มไปด้วยแรงจูงใจในการทำงานหนักนั้นดี)

 

เมื่อตอนที่เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนประถม คะแนนของโรเซตต้า ก็เพิ่มขึ้นถึงระดับทั่วไปจนได้

 

แคปซูลการศึกษามีบทบาทในเรื่องนี้ แต่การพลิกสถานการณ์ของเธอในฐานะนักเรียนที่แย่ที่สุดนั้นส่วนใหญ่มาจากความพยายามของเธอ

 

เซเรน่าชื่นชมโรเซตต้าในแง่นั้น

 

(เธอเป็นผู้หญิงที่หายากในหมู่ขุนนางหญิง)

 

มีผู้หญิงหลายคนที่อุทิศตนเพื่อสามี แต่หายากที่จะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเต็มใจเข้าร่วมโรงเรียนทหารเพื่อพวกเขา

 

หลังจากได้ยินเกี่ยวกับแผนการของโรเซตต้าที่จะติดตามเขาไปที่โรงเรียนทหาร เลียมกล่าวว่า “ในขณะที่โรเซตต้ายังอยู่ในแคปซูลการศึกษา ผมจะไปลงทะเบียนกับวอลเลซ” และวิ่งหนีไป

 

เซเรน่าสูดหายใจเข้าลึกๆและหันความคิดของเธอกลับไปที่การศึกษาของโรเซตต้า

 

“ท่านหญิงโรเซตต้า ต่อให้คุณร้องไห้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าคุณต้องการที่จะเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับท่านเลียม ตอนนี้ลุกขึ้นได้แล้ว”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น โรเซตต้าก็ลุกขึ้น

 

“ฉันเข้าใจ… เมื่อที่รักกลับมา ฉันจะแสดงให้เห็นว่าฉันเหมาะสมกับเขาในฐานะดัชเชส”

 

“…ไม่ต้องห่วง ท่านเลียมจะไม่กลับมาเร็วๆนี้”

 

“ฮะ? ไม่ใช่ว่าการศึกษาของสถาบันการทหารใช้เวลาเพียงหกปีเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?”

 

เซเรน่าอธิบายเสียงเรียบ

 

“การเรียนจะเริ่มขึ้นทันทีหลังจากลงทะเบียนเรียน และหลังจากนั้นสองปี มีการเกณฑ์ทหาร เพื่อใช้เวลาอย่างน้อยสี่ปีในกองทัพ แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่า เขาได้รับมอบหมายให้ประจำการที่ไหน อย่างเร็วที่สุดคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบสองปี”

 

“เป็นไปไม่ได้~!”

 

โรเซตต้า ร้องไห้อีกครั้ง

 

“ในช่วงเวลานั้น ท่านหญิงก็ต้องไปฝึกอบรมในบ้านหลังอื่นด้วย”

 

“ฉันไม่เห็นที่รักอีกตั้งสิบสองปี…”

 

“…เข้าใจที่ดิฉันพูดรึเปล่าคะ?”

 

“ค่ะ”

 

โดยปกติเหล่าขุนนางที่บรรลุนิติภาวะแล้วจะไปเรียนต่อต่างแดน แต่ไม่มีที่ใดที่ยินดีรับลูกสาวของบ้านคลอเดีย ดังนั้นโรเซตต้าจึงยังไม่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเป็รเจ้าสาวอย่างเป็นทางการมาจนถึงทุกวันนี้

 

ในสังคมขุนนาง ผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมพื้นฐานจะถูกดูหมิ่น สิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม มันมีปัญหานิดหน่อย

 

(–ตอนนี้เราเป็นศัตรูกับครอบครัวเบิร์กลีย์อย่างเปิดเผย เราต้องเลือกบ้านที่จะส่งโรเซตต้าไปอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เธอปลอดภัย)

 

มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถบอกได้ ว่าใครน่าเชื่อถือพอที่จะฝากเธอไว้

 

เซเรน่ากังวลเรื่องการศึกษาของโรเซตต้า

 

◇ ◇ ◇

 

ณ คฤหาสน์ของบารอนเบิร์กลีย์

 

มันเป็นคฤหาสน์ที่สวยงามและหรูหรามาก

 

ขนาดเกือบเท่าเมืองเมืองหนึ่ง มันดูไม่เหมือนสิ่งที่บารอนจะมีได้

 

ภายในห้องทำงานของคฤหาสน์ดังกล่าว หัวหน้าตระกูลเบิร์กลีย์ แคชมิโร่[Cashmiro] กำลังสูบซิการ์อยู่

 

เขาพ่นควันสีขาวออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองชายที่นั่งตัวสั่นอยู่บนพื้นตรงหน้าเขา

 

เขาเป็นขุนนางที่เป็นศัตรูกับตระกูลเบิร์กลีย์

 

“มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว คุณเป็นคนขวางทางครอบครัวของเรา”

 

พอแคชมิโร่พูดขึ้น เด็กๆของเขาที่อยู่รอบตัวก็ยิ้มออกมา

 

พวกเขาทั้งหมดเป็นบารอน

 

ตระกูลเบิร์กลีย์ เป็นองค์กรขนาดใหญ่มากกว่าครอบครัวบารอน

 

ในขณะที่แคชมิโร่มอบอาณาเขตจำนวนมากให้กับพวกเด็กๆเพื่อให้พวกเขาเป็นอิสระจากทางการ แต่ตัวเขาเองก็ยังเป็นคนที่ควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง

 

ขนาดที่แท้จริงของอาณาเขตที่เขาครอบครองนั้นเทียบได้กับบ้านดยุก นับได้ว่าพื้นที่นั้นมากที่สุดในจักรวรรดิ

 

และไม่ใช่เพียงอาณาเขตของพวกเขากว้างขวางเท่านั้น

 

กองยานตระกูลเบิร์กลีย์นั้นมียานรบที่แข็งแกร่งมากกว่าแสนลำ

 

นอกจากนั้น อาจกล่าวได้ว่า โจรสลัดทั้งหมดทั่วทั้งจักรวรรดิอยู่ภายใต้การดูแลของแคชมิโร่

 

ถ้าไม่นับพวกคนจรจัดที่ไม่ติดตามใครแล้ว แคชมิโร่ถือเป็นหัวหน้าใหญ่ของเหล่าโจรสลัดในจักรวรรดิ

 

นี่คือเหตุผลที่เขาและครอบครัวถูกเรียกว่าขุนนางโจรสลัด

 

มีขุนนางหลายคนที่ร่วมมือกับแคชมิโร่ แต่ในทางกลับกัน ยังมีอีกหลายคนที่ต่อต้านเขาเหมือนผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้

 

ต่อหน้าแคชมิโร่ ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาตะโกนออกมา

 

“ไอ้พวกโจรสลัดเวร! คุณเป็นคนกดดันดินแดนของเราด้วยการให้พวกโจรสลัดโจมตีเรา!”

 

แคชมิโร่สูบซิการ์ของเขา

 

“ทั้งหมดที่ฉันต้องการ คือให้คุณมอบดินแดนและตำแหน่งของคุณอย่างว่าง่าย… คุณไม่เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกชายเติบโตอย่างอิสระเหรอ?”

 

“คุณทำลายบ้านฉันเพราะเรื่องแบบนั้นเหรอ! ยิ่งกว่านั้น คุณยังฆ่าครอบครัวของฉันด้วย… ไอ้พวกโจรสลัด อ๊ากกกกก!!!”

 

เมื่อขุนนางยืนขึ้นและพยายามโจมตีแคชมิโร่ ลูกชายคนหนึ่งก็ยิงขุนนางคนนั้นล้มลงไปในทันที

 

ขณะที่ชายคนนั้นดีดดิ้นบนพื้น เลือดของเขาก็ไหลนองไปทั่ว

 

“ไอ้พวกขยะบ้าอำนาจ บ้านเบนฟิลด์จะฆ่าพวกคุณทั้งหมด…”

 

แคชมิโร่ไม่สนใจสิ่งที่ขุนนางคนนนั้นพูดก่อนตาย พลางโยนซิการ์ของเขาทิ้งแล้วเหยียบมัน

 

“เจ้าคนโง่เขลา ถ้าคุณติดตามครอบครัวเบิร์กลีย์ คุณคงไม่เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่”

 

ลูกชายคนหนึ่งเรียกแคชมิโร่

 

“ท่านพ่อ นี่หมายความว่าฉันได้เป็นบารอนแล้วเหรอ?”

 

“หืม?ใช่… แน่นอน แต่จะอยู่ภายใต้การควบคุมจากฉัน”

 

“เยี่ยมไปเลย! ตอนนี้ฉันได้เป็นฝ่ายบริหารของครอบครัวแล้ว!”

 

แม้ว่าลูกชายจะมีความสุข แต่แคชมิโร่ไม่รู้ชื่อของเขาด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร หรือแม้แต่เป็นลูกคนที่เท่าไหร่ก็ตาม

 

เขาเพิ่งทำให้ลูกชายของเขาเป็นบารอนโดยไม่กลัวการทรยศเพราะคิดแค่ว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน

 

“–ตอนนี้น้ำยาอีลิกเซอร์ของเราใกล้จะหมดแล้ว ฉันต้องการที่จะดูดซึมดาวเคราะห์เพื่อเติมพลังงาน แต่เราควรใช้ดาวดวงไหนดี?”

 

ลูกชายอีกคนแนะนำขึ้นมา

 

“ฉันรู้จักดาวเคราะห์ดีๆดวงหนึ่ง บ้านที่ปกครองที่นั่นมีลูกสาวที่ฉันสนใจอยู่คนหนึ่ง แต่พวกเขาปฏิเสธฉันเพราะพวกเขาไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับขุนนางโจรสลัด

ฉันต้องการทำลายดาวของพวกเขาเป็นการแก้แค้น”

 

เพียงแค่คำพูดของลูกชายรูปร่างผอมเพรียวที่กำลังเกาหัวของเขา แคชมิโร่ตัดสินใจฆ่าคน สัตว์ และแม้แต่ดาวเคราะห์ทั้งดวงเพื่อสร้างน้ำยาอีลิกเซอร์

 

“เราไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมสัมพันธ์ที่ไร้ประโยชน์ จัดการทำลายพวกมันทันที”

 

“จัดไป อย่างไรก็ตาม…ฉันอยากจะไว้ชีวิตลูกสาวของพวกเขา ฉันต้องการทำให้เธอเป็นเมียน้องของฉัน”

 

“ทำสิ่งที่คุณต้องการ”

 

อุปกรณ์พัฒนาดาวเคราะห์– ความแข็งแกร่งของตระกูลเบิร์กลีย์ เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่ทำมาจากเทคโนโลยีโบราณอันนี้

 

พวกมันเป็นเครื่องจักรที่สร้างดาวเคราะห์และปรับพวกมันให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย

 

อย่างไรก็ตาม หากคุณเปลี่ยนวิธีการใช้งาน คุณสามารถดูดซับชีวิตทั้งหมดจากโลกและผู้อยู่อาศัย และสร้างน้ำยาอีลิกเซอร์แทน

 

ด้วยวิธีนี้ ตระกูลเบิร์กลีย์ได้ผลิตน้ำยาอีลิกเซอร์จำนวนมากและขายมันจนมีชื่อเสียงในจักรวรรดิ

 

การฆ่าผู้คนและดาวเคราะห์เป็นการเสียสละเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แคชมิโรก้มมองลงไปที่ศพของขุนนาง

 

“…ที่สำคัญกว่านั้น สถานการณ์ปัจจุบันในบ้านเบนฟิลด์เป็นยังไง”

 

มีขุนนางคนหนึ่งที่แสดงท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อตระกูลเบิร์กลีย์อย่างเปิดเผย

 

– เลียม เซรา เบนฟิลด์

 

เหล่าลูกชายของแคชมิโร่มองหน้ากัน ต่างแสดงสีหน้าลำบากใจ

 

“รายงานมา!”

 

เมื่อแคชมิโรพูดอย่างนั้น ลูกชายคนหนึ่งของเขาที่ไว้เคราก็ก้าวออกมา

 

“…เราได้จ้างและส่งมือสังหารไปที่บ้านของเขาแล้ว แต่พวกเขาล้มเหลวทั้งหมด”

 

มีการตั้งค่าหัวและส่งเหล่ามือสังหารออกไป

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกฆ่าตายทั้งหมด

 

“พวกมันแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ ถ้าเรายังส่งพวกเขาแล้วยังล้มเหลวอย่างต่อเนื่องฝ่ายเราจะเป็นฝ่ายกดดันซะเอง”

 

ลูกชายคนหนึ่งที่มีท่าทางสงบเสงี่ยมแนะนำแคชมิโร่ว่าพวกเขาควรหยุดความพยายามในการลอบสังหาร  

 

“ท่านพ่อ เลียมตอนนี้ได้เข้าโรงเรียนทหารแล้ว หากเราส่งมือสังหารต่อไป เราอาจจะทำให้กองทัพของจักรวรรดิโกรธเคืองได้”

 

“แล้วไง? คุณกำลังพูดว่าเราควรจะดูสถานการณ์อยู่เฉยๆงั้นเรอะ? ปล่อยมันไว้ไม่ได้ สังคมชั้นสูงเป็นเรื่องของหน้าตา เราจะถูกดูถูกถ้าเราปล่อยมันไปแบบนี้!”

 

ตามคำพูดของแคชมิโร่ ลูกชายเสนอทางเลือกอื่นนอกจากการลอบสังหาร

 

“…ท่านพ่อ บ้านเบนฟิลด์นั้นเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก”

 

“คุณหมายถึงหนี้ที่หัวหน้าคนก่อนๆ ทำไว้งั้นเรอะ? มีแผนยังไง?”

 

“พวกเขาเป็นลูกหนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ้านของเรา ฉันอยากจะลองรวบรวมมันด้วยกำลัง แม้ว่าเราจะต้องก้าวร้าวสักหน่อยก็ตาม”

 

แคชมิโร่รู้สึกกังวลเล็กน้อยหลังจากได้ยินความคิดนั้น

 

(ถ้าเราบังคับทวงหนี้จากคนที่จ่ายหนี้ตรงตามกำหนด… ความไว้วางใจในบริษัทของเราจะลดลง)

 

เพื่อที่จะเข้าใจจุดอ่อนของธุรกิจคู่แข่งและบ้านอื่นๆ พวกเขายังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมการเงิน

 

จำนวนรายได้ที่พวกเขาได้รับจากมันนั้นไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ดังนั้นเขาจึงต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้สูญเสียความน่าเชื่อถือถ้าเป็นไปได้

 

อย่างไรก็ตาม หากพวกเขายังคงส่งมือสังหารไปยังเลียมและล้มเหลวอีก บ้านที่เป็นปรปักษ์ต่อตระกูลเบิร์กลีย์ อาจมองว่านี่เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและเริ่มออกตัวต่อต้านมากยิ่งขึ้น

 

(ถึงจะขาดทุน แต่เราจะต้องฆ่าเด็กเหลือขอคนนั้นให้ได้)

 

เลียมผู้ซึ่งกลายเป็นนักล่าโจรสลัด นั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแคชมิโร่อย่างแน่นอน

 

หากบุคคลดังกล่าวเติบโตในสังคมขุนนาง ความรุนแรงของบ้านที่ต่อต้านเขาจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

 

(…ถ้าไม่จัดการมันตั้งแต่ตอนนี้ มันจะจัดการเราแทน)

 

บ้านหลายหลังไม่พอใจครอบครัวเบิร์กลีย์ ดังนั้น แคชมิโร่จึงต้องการจบเรื่องนี้ก่อนที่เลียมจะเสร็จสิ้นการเรียนของเขาอย่างเป็นทางการ

 

“เอางั้นก็ได้… เราจะเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับการล่มสลายของบ้านเบนฟิลด์ออกไป ให้เหตุผลไปว่า พวกเขาไม่สามารถชำระหนี้ได้ สั่งให้พวกเจ้าหนี้ทุกคนรีบไปเก็บค่าธรรมเนียมโดยเร็วที่สุด”

 

เป้าหมายถูกเปลี่ยนจากเลียมในฐานะบุคคล เป็นบ้านเบนฟิลด์ทั้งหมดแทน

 

การบดขยี้ระหว่างขุนนางตอนนี้กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง

 

————

 

ไบรอัน (´;ω;`) “มันเจ็บปวด… ไม่ใช่แค่ไบรอันเท่านั้น… แต่แม้แต่ท่านเลียมเองก็ไม่ได้ปรากฏตัวในครั้งนี้ นี่มัน… เจ็บปวด”

 

สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ. จะได้มีแรงมาลงบ่อยๆ (กราบ)

Comment

Options

not work with dark mode
Reset