(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! – ตอนที่ 54

บทที่ 54 การฝึกอบรมของโรเซตต้า  

 

ในพระราชวังของเมืองหลวงจักรวรรดิ

 

โรเซตต้าผู้มาฝึกที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงาน มองขึ้นไปบนฟ้าจากหน้าต่างในโถงทางเดิน

 

ท้องฟ้าสีครามของเมืองหลวงจักรวรรดิเป็นเพียงภาพจำลอง แต่ก็ยังชัดเจนและสวยงาม

 

“…ที่รัก…คุณสบายดีไหมนะ”

 

เซเรน่าเลือกสถานที่ทำงานเก่าของเธอเป็นที่สถานที่สำหรับการฝึกอบรมของโรเซตต้า

 

ถ้าเธอสำเร็จการศึกษาที่นี่ จะไม่มีใครดูถูกเธอได้

 

หญิงสาวขุนนางหลายคนมาที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงานด้วย ดังนั้นสาวใช้ส่วนใหญ่จึงมาจากบ้านขุนนาง

 

กำหนดการณ์คือให้โรเซตต้าใช้เวลาสามปีในในการฝึกอบรมครั้งนี้

 

เซเรน่าบอกกับเธอว่าเธอต้องอยู่ฝึกอบรมจนจบหลักสูตรในเมืองหลวงของจักรวรรดิ ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปยังอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์ได้ในตอนนี้

 

ในตอนนั้นเอง ที่กลุ่มผู้หญิงสามคนซึ่งแต่งตัวในชุดเมดเดินเข้ามาหาเธอ

 

“อุ้ยตาย ทายาทของบ้านคลอเดียมาทำอะไรที่นี่กันล่ะเนี่ย”

 

หัวหน้ากลุ่มเป็นลูกสาวของบ้านมาร์ควิส

 

ในขณะที่อีกสองคนที่อยู่ด้านข้างซ้ายขวาของเธอเป็นลูกสาวของบ้านไวส์เคานต์

 

แม้ว่าเด็กหญิงเหล่านี้จะได้รับการปฏิบัติเหมือนเจ้าหญิงในดินแดนบ้านเกิด แต่กับที่นี่พวกเธอเป็นแค่สาวใช้

 

“ตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงพักน่ะสิ”

 

โรเซตต้าที่จบการศึกษาจากโรงเรียนประถมแล้วนั้นดูเหมือนนักเรียนมัธยมปลาย ที่กำลังทะเลาะกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมต้น ช่างเป็นภาพที่น่าสนใจ

 

“–คุณไม่อายตัวเองบ้างเหรอ ที่พึ่งเริ่มต้นการฝึกอบรมเมื่ออายุเท่านี้น่ะ?”

 

เมื่อหัวหน้ากลุ่มพูดอย่างนั้น เหล่าลูกน้องของเธอก็หัวเราะร่วน

 

ในบรรดาเด็กที่กำลังเข้ารับการฝึกอบรม ส่วนใหญ่เพิ่งผ่านพิธีบรรลุนิติภาวะ

 

ไม่บ่อยนักที่จะมาขณะที่อายุเท่าโรเซตต้า

 

“มีเหตุการณ์มากมายเบื้องหลัง ดังนั้นหากคุณช่วยมองข้ามสิ่งนี้ไปได้ คงจะดีมาก”  

 

“หยิ่งยโสอะไรแบบนี้? อย่าทำตัวเหมือนมีศักดิ์ศรีมากมายไปหน่อยเลย คุณควรหดหัวลงไปกับพื้นเหมือนเมื่อก่อน”

 

คนที่เป็นหัวหน้าอาจอยู่ในเหตุการณ์เมื่อโรเซตต้าถูกพาไปงานปาร์ตี้ของวังครั้งก่อน

 

เธอต้องการเยาะเย้ยโรเซตต้าเหมือนที่เธอทำในตอนนั้น

 

“…แน่นอนว่าตอนนี้ฉันอาจจะกำลังฝึกงานเป็นสาวใช้ แต่ตัวฉันยังคงเป็นคู่หมั้นของท่านเลียม ฉันยอมให้ตัวเองมีทัศนคติที่น่าละอายแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว”  

 

เมื่อตอบเช่นนั้น หัวหน้ากลุ่มก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ

 

“เลียมงั้นรึ? ดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะมีชื่อเสียงเมื่อไม่นานนี้ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็เป็นแค่ขุนนางจากชายแดนไม่ใช่เหรอ? เหอะ ช่างเหมาะกันเหมือนผีเน่ากับโลงผุ  

โอ้ นั่นสินะ เหมือนฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับตระกูลเบิร์กลีย์อยู่ไม่ใช่หรือ?”

 

ขุนนางโจรสลัด – ในตอนนี้เลียมกำลังมีความขัดแย้งกับกลุ่มที่ถือว่าอันตรายแม้แต่ในหมู่ขุนนางระดับสูง

 

“คุณกำลังจะพูดอะไรกันแน่?”

 

“คุณคิดว่าน้ำหน้าอย่างเขาจะสามารถเอาชนะครอบครัวเบิร์กลีย์ได้จริงเหรอ? ในฐานะคนที่เกี่ยวข้องกับบ้านเบนฟิลด์ ชีวิตคุณก็ไม่ได้ปลอดภัยนักหรอก โฮะๆ”

 

สิ้นบทสนทนานี้ โรเซตต้าพยายามเดินหนีไปขณะที่สาวๆ หัวเราะคิกคัก

 

“หนีอีกแล้วเห็นไหม? อย่างที่คิด ครอบครัวคลอเดียที่น่าอับอายช่างไม่มีศักดิ์ศรี คุณไม่สามารถยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ด้วยซ้ำ”

 

หลังจากอีกฝ่ายเยาะเย้ยความภาคภูมิใจอันสูงส่งของเธอแล้ว โรเซตต้าก็กัดริมฝีปากของเธอด้วยความหงุดหงิด

 

(อดทนไว้ ฉันไม่สามารถทำให้ตัวเองเสื่อมเสียที่นี่เพื่อประโยชน์ของที่รัก)

 

ขณะที่โรเซตต้าพยายามกลับไปทำงาน ผู้หญิงผมสีเงินก็เดินเข้ามาหาเธอ

 

เธอคือหลานสาวของเซเรน่า [แคทลียา]

 

แม้ว่าเธอจะสวมชุดเมดเหมือนกัน แต่ตำแหน่งที่แท้จริงของเธอนั้นเป็นตำแหน่งที่ควบคุมคนใช้จำนวนมาก

 

เธอยังเป็นที่ปรึกษาของโรเซตต้าขณะที่เธอมาฝึกอบรมที่นี่

 

“คุณสามคนอีกแล้วเหรอ”

 

“ค่ะ คุณหญิงแคทลียา” โรเซตต้าโค้งคำนับ ทักทาย

 

แคทลียามองผ่านโรเซตต้า เธอหรี่ตาไปยังกลุ่มเด็กสาวที่สร้างปัญหา ทำให้พวกเธอหนีไปอย่างเร่งรีบ

 

“ฉันล่ะหวังว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้ที่จะไม่อวดสถานะของตัวเองที่นี่”

 

หลังจากที่ได้รับการเอาอกเอาใจเหมือนเจ้าหญิงตั้งแต่เกิด พวกเธอยังคงไม่ทิ้งนิสัยที่ติดมาจากที่บ้าน  

 

เหมือนว่าพวกเธอจะเข้าใจผิดว่าอำนาจของครอบครัวพ่อแม่เป็นของตัวเอง

 

“ฉันจะช่วยหยุดพวกเขาถ้าฉันเห็นมันเกิดขึ้น แต่ว่านะ…โรเซตต้า นี่คือสิ่งที่คุณต้องแก้ไขด้วยตัวเอง”

 

“…ค่ะ”

 

หลังจากได้ยินคำเตือนของแคทลียา โรเซตต้าก็ตกอยู่ในห้วงความคิด

 

“ลองคิดดูว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร หากคุณไม่สามารถแก้ไขเรื่องเล็กน้อยระดับนี้ได้  

ในอนาคตคุณจะลำบากกว่านี้ –ทำทุกสิ่งที่คุณต้องทำในฐานะสาวใช้ ฉันจะรอดู”

 

เมื่อกล่าวเช่นนั้นแคทลียาก็เดินจากไป ส่วนโรเซตต้าเริ่มคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้

 

(…หรือนี่คือบททดสอบ?)

 

มีหลายวิธีในการจัดการพวกเขา

 

หากเธอยืมอำนาจของเลียม เธอสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ในทันที

 

แต่…วิธีแก้ปัญหาแบบนั้นคงไม่สามารถเรียกได้ว่าเหมาะสมกับตำแหน่งดัชเชส

 

(ฉันไม่สามารถยืมอำนาจของที่รักมาใช้กับเรื่องแบบนี้ได้ ถ้าฉันทำอย่างนั้น ฉันก็คงไม่ต่างไปจากพวกเขา  

แถมยังไม่มีประโยชน์ที่จะโจมตีเด็กที่ยังไม่จบจากโรงเรียนประถมด้วยซ้ำ)

 

เด็กโตยกพวกมาแก้แค้นเด็กอายุน้อยกว่า แม้ว่าจะมีเหตุผลแค่ไหนอยู่เบื้องหลัง แต่สาธารณะชนก็ไม่ยอมรับอย่างแน่นอน

 

ถ้าโรเซตต้าทำแบบนั้น ชื่อเสียงของเลียมจะเสียหาย

 

(เพราะแบบนั้น วิธีที่ฉันเลือกต้องยุติธรรมและมีเกียรติเหมือนที่ที่รักทำ!  

ฉันต้องดำเนินการในแบบที่ทุกคนยอมรับ แม้ว่าจะเป็นแค่สาวใช้ก็ตาม!)

 

โรเซตต้าตัดสินใจที่จะทำให้ดีที่สุดในฐานะสาวใช้

 

◇ ◇ ◇

 

ที่คฤหาสน์ตระกูลเบนฟิลด์

 

ไบรอันรู้สึกเหงาเมื่ออยู่ในคฤหาสน์ซึ่งไม่มีทั้งเลียมทั้งโรเซตต้า  

 

“เฮ้อ~”  

 

จำนวนการถอนหายใจของเขาเพิ่มขึ้นตลอดช่วงพักของเขา

 

เซเรน่าอดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับอาการของเขา

 

“ดูเหมือนว่าคุณจะอาการหนักนะเนี่ย”

 

“…สถานที่นี้รู้สึกว่างเปล่าเมื่อท่านหญิงโรเซตต้าที่ร่าเริงหายไป และท่านเลียมก็ยังอยู่ที่สถาบันการทหาร  

‘ความมีชีวิตชีวา’ ทั้งหมดในคฤหาสน์ดูเหมือนจะหายไป”

 

“แต่ความเงียบก็มีข้อดีในแบบของมัน เมื่อสิ่งต่างๆยุ่งวุ่นวาย คุณจะคิดถึงวันสบายๆแบบตอนนี้”

 

ที่ไบรอันกำลังกังวลคือเรื่องของโรเซตต้า

 

ซึ่งเขาก็เป็นห่วงเลียมด้วย แต่เขารู้ว่านายท่านของเขาสามารถเอาชนะปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นด้วยตัวเขาเองได้

 

แต่โรเซตต้านั้นแตกต่างกัน

 

“ฉันกังวลว่าท่านหญิงโรเซตต้าจะเป็นอะไรรึเปล่า”

 

“ฉันฝากเธอไว้ในความดูแลของหลานสาวของฉัน[แคทลียา] ดังนั้นเธอน่าจะสบายดี”

 

แคทลียา– หลานสาวของเซเรน่าเป็นคนที่มีความสามารถมาก

 

เซเรน่ารู้ว่าโรเซตต้าจะปลอดภัยถ้าอยู่ในความดูแลของเธอ

 

“ฉันแค่กังวลว่าเธอจะถูกเด็กฝึกงานคนอื่นรังแก ท่านหญิงโรเซตต้าอาจจะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

 

ในฐานะที่เป็นคนที่รับใช้ในบ้านเบนฟิลด์มาหลายปี ไบรอันได้เห็นการต่อสู้และความขัดแย้งระหว่างผู้หญิงมาบ้าง…ซึ่งมันค่อนข้าง…รุนแรง

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เขากังวล

 

“…นั่นคือสิ่งหนึ่งที่ท่านหญิงโรเซตต้าต้องเรียนรู้เช่นกัน นี่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนของเธอ”

 

วังเป็นสถานที่ทำงานเก่าของเซเรน่า

 

เธอได้เห็นความขัดแย้งเหล่านั้นมามากมาย เธอไม่ต้องเดาก็รู้ว่า มีพวกที่มีเจตนาร้ายจะเข้าหาโรเซตต้า

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะดัชเชสในอนาคต คงเป็นเรื่องน่ากังวลหากโรเซตต้าไม่สามารถยืนหยัดกับเรื่องแค่นี้ได้

 

“โอ้ ถ้ามีแคทลียาอยู่ที่นั่น ฉันก็สบายใจได้”

 

“ยังมีเรื่องอื่นๆที่ต้องกังวลเช่นกัน ความขัดแย้งของเรากับครอบครัวเบิร์กลีย์ ดูเหมือนจะคลี่คลายลงอย่างกระทันหัน

มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าจะมีสิ่งที่เลวร้ายกว่ากำลังจะเกิดขึ้น”

 

ระหว่างพวกเขา ทั้งสองฝ่ายกำลังทำสงครามเศรษฐกิจจนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆการตอบโต้ของครอบครัวเบิร์กลีย์ก็สงบลงกระทันหัน

 

แทนที่จะโล่งใจ สิ่งนี้กลับทำให้รู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าประหลาด

 

“บางทีพวกเขาอาจจะยอมแพ้ไปแล้วก็ได้นี่?”

 

เมื่อไบรอันพูดอย่างนั้น เซเรน่าปฏิเสธอย่างมั่นใจ “เป็นไปไม่ได้”

 

“ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมทำสงครามครั้งใหญ่มากกว่า ท่านเลียมก็กำลังสร้างกองกำลังของเขาเช่นกัน  

ทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมที่จะยุติเรื่องนี้ทั้งหมดในครั้งเดียว”

 

“อะไรนะ! หมายความว่า ท่านเลียมเพิ่มกองกำลังของเขาล่วงหน้าเพราะคาดการณ์ไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น?!  

ไบรอันผู้นี้คิดว่าเขาแค่ต้องการซื้อยานรบเพิ่มเท่านั้นเอง!”

 

เมื่อเห็นท่าทีของไบรอัน ซึ่งรับใช้เลียมมาหลายปี เซเรน่าก็มีสีหน้าจริงจัง

 

“…ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก”

 

เธอพึมพำพลางถอนหายใจ

 

(มันเป็นเพียงสัญชาตญาณของเขา ที่ทำให้เขาสร้างกองกำลังก่อนที่ครอบครัวเบิร์กลีย์จะโจมตี หรือว่าเป็นเขาเองที่คาดหวังให้สิ่งนี้เกิดขึ้น? …อย่างที่คิด เด็กคนนั้นมีความสามารถจนน่ากลัว)

 

เพื่อให้โรเซตต้ามีความสามารถพอที่จะเคียงข้างเลียม เซเรน่าอดไม่ได้ที่จะคิดว่า นั่นดูท่าจะเป็นหนทางที่ยากลำบาก

 

◇ ◇ ◇

 

ช่วงเวลาเดียวกัน อีกสถานที่หนึ่ง

 

เทียซึ่งเพิ่งจบการศึกษาจากสถาบันการทหารเป็นอันดับหนึ่ง ปัจจุบันถูกบรรจุเป็นร้อยโท

 

โดยปกติแล้ว เธอต้องไปประจำในแผนกต่างๆเพื่อบรรจุเข้ากองกำลังสำหรับฝึกอบรม

 

อย่างไรก็ตาม เทียนั้นได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ทำให้ตอนนี้เธอกำลังจัดระเบียบกองยานลาดตระเวนทั้งหมดใหม่

 

ภายในสำนักงานของเธอ เธอกำลังยุ่งอยู่กับการจัดระเบียบกองยานให้เหมาะกับเลียม

 

“กองยานลาดตระเวนที่48และ49 ดูเหมือนว่าจำนวนยานในกองจะไม่ตรงกับที่ระบุไว้”

 

ตามเอกสาร กองยานแต่ละกองควรมีประมาณสามสิบลำ

 

แต่ที่มีอยู่ กลับมีแค่เพียงประมาณสิบลำเท่านั้น

 

จำนวนบุคลากรนั้นก็มีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

 

“ยานเหล่านี้ไม่ตกรุ่นไปหน่อยเรอะ? คงต้องรื้อและรีไซเคิลพวกมันทั้งหมด… แม้แต่ทักษะของบุคลากรในกองก็ไม่ผ่านมาตรฐาน-ขวัญกำลังใจก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน”

 

การสำรวจเบื้องต้นเปิดเผยว่าทหารมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ต้องการออกจากกองทัพ

 

พวกเขาต้องการฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อที่จะออกไปหางานอื่นทำหลังจากปลดประจำการ

 

อย่างไรก็ตาม การฝึกอบรมวิชาชีพและการหางานสำหรับพวกเขานั้นทางกองทัพต้องเป็นคนออกให้

 

มันต้องการงบประมาณมหาศาล

 

“กองทัพจักรวรรดิไม่เต็มใจที่จะจัดระเบียบใหม่ ด้วยงบประมาณที่จักรวรรดิให้มามันไม่ถึงหนึ่งในสิบที่ต้องใช้ด้วยซ้ำ”

 

จักรวรรดิคิดว่า การเตรียมกองยานใหม่ดีกว่าการซ่อมแซมกองยานที่ล้าสมัย

 

มีเหตุผลหลายอย่าง แต่เหตุผลหลักดูเหมือนจักรวรรดิ ต้องการกองกำลังแนวหน้ามากกว่ามาทุ่มงบประมาณให้กับกองยานลาดตระเวน

 

การเพิ่มงบประมาณให้กองยานลาดตระเวนที่มีขวัญกำลังใจต่ำ ทักษะต่ำ และอุปกรณ์ที่สุดแสนจะโบราณนั้น

สู้เอาไปให้กับแนวหน้าเพื่อเพิ่มกำลังรบที่ใช้งานได้นั้นคุ้มกว่าเห็นๆ

 

นั่นไม่รวมการเกณฑ์คนใหม่และการฝึกอบรมทหารที่ประจำการอยู่แล้วเพิ่มเติม

 

การฝึกอบรมในแผนกต่างๆนั้น จะต้องใช้เวลาและงบประมาณเป็นจำนวนมาก

 

อีกทั้งยังต้องใช้ทรัพยาการจำนวนมาก ในการจัดหาอุปกรณ์ใหม่ให้กับทหารที่มาประจำการ

 

และหากนั่นยังไม่พอ สิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือเมื่อเทียเริ่มปรับโครงสร้างกองยานใหม่ภายใต้คำสั่งของเลียม  

ทหารที่มีทักษะต่ำกว่ามาตรฐานนั้นมากมายจนทำให้เธอปวดหัว  

 

แต่-

 

เลียมนั้นให้งบประมาณจำนวนมากกับเทียให้เธอเป็นคนจัดการ

 

จำนวนเงินนั้นมากเกินความจำเป็นสำหรับกองยานทั้งกอง

 

เทียเริ่มยิ้ม

 

“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านเลียมถึงมอบเงินจำนวนมหาศาลให้ฉัน เขาคาดการณ์ไปไกลถึงขั้นนั้น!”

 

ที่เลียมให้งบประมาณมาเยอะนั้น เพราะเขาต้องการกองยานที่เขาสามารถใช้มันเป็นที่พักผ่อนของเขาได้

 

แต่-

 

เทียผู้บูชาเลียมจนเกินความจำเป็นนั้นอ่านเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งเกินไป หลังจากพิจารณาถึงจำนวนเงินและสถานการณ์ปัจจุบัน

 

“ถ้าเขาให้งบประมาณมากขนาดนี้ มันคงจะดีกว่าถ้าเขาใช้มันโดยตรงกับกองยานของเบนฟิลด์…  

ไม่สิ เดี๋ยวนะ! เข้าใจแล้ว! นี่คือสิ่งที่เขากำลังวางแผนไว้! นี่มันคือแผนการของท่านเลียม!”

 

ถ้าเขาใช้งบประมาณนี้ในกองทัพจักรวรรดิ มีเพียงจักรวรรดิเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์

 

เพราะแบบนั้น คนส่วนใหญ่จะลงทุนในอาณาเขตของตนเองแทน

 

อย่างไรก็ตามเทียที่คิดอยู่เสมอว่า ‘ทุกสิ่งนั้น ท่านเลียมได้วางแผนไว้แล้ว!’ และเริ่มคิดจากมุมมองนั้น

 

และหลังจากไตร่ตรองแล้ว เธอก็คิดออก

 

“ฉันเข้าใจเป้าหมายของท่านเลียมแล้ว! นี่เป็นกลยุทธ์ในการลดกองกำลังของตระกูลเบิร์กลีย์ในอนาคต พร้อมกับเพิ่มอิทธิพลของเขาในกองทัพของจักรวรรดิไปในตัว!”

 

สำหรับกองยานลาดตระเวน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้ยินว่าพวกเขาละทิ้งตำแหน่งเพื่อไปเป็นโจรสลัด

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นกองกำลังของตระกูลเบิร์กลีย์ในอนาคต  

ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามขุนนางโจรสลัด

 

เพื่อลดการแปรพักตร์ เธอมีหน้าที่ปฏิรูปพวกเขาให้กลายเป็นกองยานมาตรฐานของกองทัพจักรวรรดิ

 

และไม่ว่ายังไง กองยานที่ก่อตั้งโดยเลียมจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

 

กองทัพจะติดหนี้เลียมที่มาดูแลและปรับระบบของกองยานลาดตระเวนใหม่

และกองยานที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ ก็จะกลายเป็นไพ่ใบสำคัญในการต่อสู้กับครอบครัวเบิร์กลีย์

 

“กองกำลังของบ้านเบนฟิลด์นั้นมีขีดจำกัดว่าสามารถเพิ่มได้ถึงจำนวนหนึ่งเท่านั้น  

ดังนั้นในครั้งนี้ท่านเลียมจึงทำให้กองทัพจักรวรรดิมาเป็นฝ่ายเราอย่างชาญฉลาด!”

 

เทียผู้อ่านงบประมาณที่ได้จากเลียมลึกซึ้งเกินไป

 

“ด้วยเงินทุนในระดับนี้ เราจะได้รับพันธมิตรจำนวนมาก

ในขณะที่ท่านเลียมสามารถรักษาอิทธิพลของเขาในกองทัพไว้ได้ในอนาคต! – ฉันจะผิดพลาดไม่ได้!”

 

แรงจูงใจของเทียเพิ่มขึ้น

 

ท่านเลียมของเธอนั้นทั้งมองการณ์ไกลและวางแผนอย่างแยบยล ทำให้เทียประทับใจในตัวเลียมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“เพื่อกำจัดขยะที่เรียกตัวเองว่าขุนนางโจรสลัด และแก้ไขปัญหาจำนวนมากภายในจักรวรรดิ ท่านเลียมเป็นศูนย์รวมแห่งคุณธรรมอย่างแท้จริง”

 

แก้มของเทียแดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้น เธอพร่ำเพ้อถึงเลียมอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมุ่งมั่นทำงานของเธอต่อไป

 

————

 

ไบรอัน(´・ω・) “มันเจ็บปวด จะมีใครบ้างนะที่จะเข้าใจท่านเลียมอย่างแท้จริง…มันช่าง…เป็นเรื่องที่เจ็บปวด”

 

————

กาวมาเต็มเลยตอนนี้ กาวจัดๆ

สนับสนุนผู้แปลได้ที่นี่นะครับ กสิกร 475-2-65694-8 เมือง บ.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset