[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka? – ตอนที่ 45

—คืนวันนี้ ขณะที่ผมกำลังสนทนาทางวีดีโอกับพ่อแม่ของริโกะ หลังจากนั้นหัวข้อในวัยเด็กของริโกะก็ปรากฏขึ้นในการสนทนา

 

“เธอเป็นผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งเธออายุห้าขวบนั่น อาจเป็นสาเหตุที่ทําให้เธอมีปัญหาในการปรับตัวเข้าอนุบาลในญี่ปุ่น ใช่แล้วล่ะมินาโตะ ทุกวันเธอจะ เขียนสมุดจดสมัยอนุบาลว่าเธอเล่นคนเดียวอีกแล้ววันนี้ พวกเรากังวลมามาระยะหนึ่งแล้ว แต่วันหนึ่งเราไม่สามารถบอกเธอได้ว่าเราโล่งใจแค่ไหนเมื่อริโกะบอกเราว่าเธอมีเพื่อนแล้ว”

 

ริโกะคนปัจจุบันมักมีเพื่อนร่วมชั้นห้อมล้อมที่โรงเรียนอยู่เสมอ ผมจึงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีสักครั้งที่เธอยู่คนเดียว

 

“คุณริโกะจำได้มั้ยครับ…”

 

ผมหันไปข้างๆเธอพร้อมกับถามออกไป เรานั่งข้างๆกันบนโซฟาในห้องนั่งเล่น

 

จากนั้นคิ้วของริโกะก็ลดต่ำลง เธอกัดรีมฝีปากล่างของตัวเอง ดวงตาสีคาราเมลของเธอสั่นเทาเล็กน้อย ราวกับว่าเธอกำลังเดินเตร่ไปมาระหว่างความคิดวิตกกังวลและความคาดหมาย..

 

…เอ๊ะ..? ปฏิกิริยาแบบนี้หมายความว่าอะไร

 

ผมไม่เคยเห็นริโกะเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิต

 

“..คุณริโกะ….”

 

ริโกะที่สังเกตเห็นการจ้องมองเมื่อครู่ของผมก็ตกใจขึ้นมา

 

“อ่า!!..อึมใช่ หนูยังจำวันเหล่านั้นได้ดี…แต่จู่ๆพ่อกับแม่ก็พูดถึงความทรงจำในวัยเด็กขึ้นมา ถึงมันจะค่อน….ข้างน่าอาย..”

 

ริโกะอายมากขนาดนั้นเลยเหรอ..? เธอลุกขึ้นพูดว่า”ฉันจะไปชงชาเพิ่ม”และรีบมุงตรงไปที่ห้องครัว…

 

iPad ที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ย พ่อแม่ของริโกะมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม พวกเขาต้องมีความผูกพันกับริโกะลูกสาวของพวกเขามากแน่ๆ ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี..ท้ายที่สุดความคิดที่ครอบงำจิตใจของผมตลอดเวลาก็คือ”ริโกะน่ารัก..”

 

“เอ้อนี่ มินาโตะ ลูกอยากดูรูปตอนที่ริโกะยังเป็นเด็กๆมั้ย”

 

“ดูได้จริงๆเหรอครับ…”

 

เมื่อพ่อตาแนะนำสิ่งนี้มา ผมก็อดไม่ได้ที่จะพลาดโอกาสนี้ไปได้

 

เพราะเป็นรูปของริโกะตอนเด็กๆ…แน่นอนผมอยากเห็นมัน

 

===

 

ถึงแม้ว่าวีดีโอแชทกับพ่อแม่ของริโกะจะจบลงแล้ว แต่จิตใจของผมก็ยังคงจินตนาการภาพของเธอตอนยังเป็นเด็กไม่หยุด

 

ตอนนั้นเธอคงจะน่ารักสุดๆไปเลย…

 

ข้อมูลที่พ่อแม่ของริโกะบอกมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ผมยังมีสิ่งอื่นๆที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวเธออีกมาก

 

ผมไม่เคยสนใจใครเท่านี้มากก่อนเลย

 

มันเป็นแบบนี้เองเหรอความรู้สึกที่อยากจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคนคนนั้น…คนที่รัก..

 

“คุณมินาโตะ มีอะไรอยากถามฉันมั้ย..”

 

“เอ๊ะ! รู้ได้ยังไง”

 

“ฮิฮิ..คุณมินาโตะมองง่ายออกจะตาย ทุกอย่างที่คุณคิดมันแสดงออกมาทางใบหน้าหมดแล้วนะคะ..”

 

“เข้าใจแล้ว..ผมไม่คิดเลยว่ากำลังเป็นอยู่ มันคงจะน่าอายสุดๆไปเลย”

 

“แต่ฉันชอบนะคะ..”

 

“อึ๊ก!..”

 

ผู้หญิงคนนี้บอกชอบออกมาง่ายๆอีกแล้ว

 

“แล้ว..มีอะไรอยากถามฉันเหรอคะ..?”

 

“เอ่อ..ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับดูเหมือนคุณไม่อยากพูดถึงเรื่องอดีตอีก..”

 

….

 

“แล้ว..คุณมินาโตะอยากรู้เกี่ยวกับฉันตอนที่ยังเป็นเด็กมั้ย..”

 

“ก็..อยากรู้แหละครับ..แต่ถ้าคุณริโกะลำบากใจก็ไม่เป็นไร”

 

“ฉันยินดีบอกค่ะ! ถ้าคุณต้องการ”

 

หัวใจของผมเต้นแรงเมื่อเธอจ้องมาด้วยสายตาเร่าร้อน ผมรู้เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่เมื่อเธอพูดว่า”ฉันยินดีที่จะให้คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน” มันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมาก

 

 

งั้น..ผมขอถามอะไรคุณหน่อยได้มั้ยครับ ผมไม่ได้บังคับอะไรนะ ผมแค่อยากฟังเรื่องราวตอนที่ยังเป็นเด็กจากปากของคุณริโกะเอง…”

 

ริโกะยิ้มและนั่งลงข้างๆผม ระยะห่างตอนนี้ใกล้กว่าเมื่อกี้นี้มาก เข่าของเราเกือบแตะกัน แต่แทนที่จะขยับออกห่างมากกว่านี้ เธอเอนตัวไปข้างหน้าแล้วเริ่มพูด

 

รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังพิสูจน์ความปรารถนาทที่จะรู้จักผมด้วยทัศนคติของเธอ

 

“ฉันเกิดที่นิวยอร์กอาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงห้าขวบ ฉันเคยพูดภาษาญี่ปุ่นเองอยู่ที่บ้าน แต่สำเนียงเเละการออกเสียงมักจะเหมือนคนต่างประเทศอยู่เสมอ ตอนที่ฉันกลับมาญี่ปุ่น ในวันที่เริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลมีเพื่อนหลายคนบอกว่า”คำพูดของริโกะแปลกจัง” สุดท้าย..ฉันเลยกลัวที่จะพูดออกไปหรือส่วนหนึ่งก็ฉันเป็นคนค่อนข้างขี้อายมาโดยตลอด”

 

แม้ว่ามันจะเป็นแค่บทสนทนาของเด็กๆ แต่มันก็ต้องเป็นคำพูดกระทบกระเทือนจิตใจเธออย่างแน่นอน

 

“หลังจากนั้น ฉันก็ไม่สามารถพูดอะไรกับใครได้เลยนอกจากคนในครอบครัว นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนนั้นฉันไม่มีเพื่อนเลย..”

 

“เข้าใจแล้ว…”

 

“หลังจากนั้นตัวฉันที่อยู่คนเดียว ได้พบกับเด็กชายในฝันคนหนึ่ง”

 

“คนที่คุณริโกะชอบ..”

 

“ใช่….เขาช่วยฉันด้วยคำพูดใจดีของเขา จำได้มั้ยคะ..คนนั้นคือรักแรกของฉันเลย..”

 

รักแรกของ เกิดขึ้นในสมัยโรงเรียนอนุบาล..คำพูดนี้ทำให้รู้สึกเหมือนหน้าอกกำลังโดนแทงด้วยอะไรบางอย่าง มันทรมารอย่างบอกไม่ถูก

 

“ส่วนผมคิดว่า รักแรกของตัวเองเกิดขึ้นสมัยตอนผมอยู่มัธยมต้น”

 

…….

 

ผมออกความเห็นไปโดยไม่ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วน ด้วยเหตุผลบางอย่างริโกะก็จ้องมาและกระพิบตาซ้ำๆ

 

ย..แย่แล้วไง…

 

ผมรีบละสายตาออกไปด้วยความตื่นตระหนก จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าแววตาของเธอลดลงราวกับกำลังผิดหวังอยู่

 

—แล้ว!!!! เสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ผมที่วางอยู่โต๊ะข้างๆก็ดังขึ้น “ปี้บๆๆ”ไม่หยุด

 

อะไรอีก…

 

การสนทนาของเราถูกขัดจังหวะ ผมรีบกล่าว”ขอโทษ”กับริโกะแล้วเปิดแอพข้อความขึ้นมา

 

ในนั้นมีรูปถ่ายหลายรูปของริโกะจากพ่อตาของผมที่พึ่งส่งมา

 

อ้อ..จำได้แล้ว ภาพของเธอตอนเด็กที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้..

 

“อ้อใช่ ตอนที่คุณริโกะไม่อยู่ผม—…..”

 

ขณะที่กำลังจะพูดออกไปตาของผมก็ได้เข้าไปสะดุดเข้ากับรูปรูปหนึ่ง

 

เอ๊ะ..?

 

ดวงตาของผมเบิกกว้างต่อหน้าภาพที่ไม่น่าเชื่อ..

 

ในภาพ มีเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนอนุบาลกำลังเล่นกันอยู่ ทั้งสองคนดูมีความสุขมากจนไม่ทันได้สังเกตว่ากล้องกำลังจับที่พวกเขาอยู่ ผมเดาว่าผู้เด็กผู้หญิงที่อยู่ในรูปนั้นน่าจะเป็นริโกะเพราะใบหน้าคล้ายคลึงกันมาก และแน่นอนว่าเธอยังเด็กมากยังไงก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ

 

แต่….

 

ปัญหาคือเด็กผู้ชายที่อยู่ในรูป..

 

แค่ชำเลืองมองผ่านๆ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร ถึงแม้เวลาจะผ่านนานไปกี่ปี ก็ไม่มีทางผิดพลาดได้

 

เพราะเด็กผู้ชายที่อยู่ในรูปคือผม…

 

 

จบ!!!!

[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?

[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?

Status: Ongoing
อ่านนิยาย [WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?—ช่วงเวลาที่หนาวมากๆ..หิมะตกในเดือนกุมภาพันธ์.. เธออยู่ในอาพาร์ตเมนต์ของผม ฮานาเอะ ริโกะ “นิยามะ มินาโตะคุง..ได้โปรด…ห..ให้ฉัน…ป..เป็นภรรยาของคุณได้ไหมคะ” ผมไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรบางคิดผมอาจคิดไปเองหรืออาจแค่ฟังผิด แต่ด้วยการที่เธอนั้นจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาอ้อนวอน ผมบอกได้เลยว่าเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ และมือเล็กๆที่โอบที่หน้าอกของเธอก็ได้สั่นเล็กน้อย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset