[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka? – ตอนที่ 46

—เกิดอะไรขึ้น? ทำไมวัยเด็กของผมกับริโกะถึงอยู่ในภาพเดียวกัน เรามาจากโรงเรียนม.ต้นคนละที่กันไม่ใช่เหรอ..และผมแน่ใจได้เลยว่าเราไม่เคยพบกันมาก่อนจนกระทั่งถึงม.ปลาย

 

ด้วยความไม่เชื่อผมได้กลับไปมองรูปนั้นอีกครั้ง….

 

=====

 

-ฉันไม่มีเพื่อน

 

-ทำไมจะไม่มีล่ะ ก็ชั้นนี่ไงเป็นเพื่อนของเธอ

 

-..นายจะเป็นเพื่อนกับฉันเหรอ

 

-ใช่ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว เพราะเราด้วยด้วยกัน ถ้าเราเล่นด้วยกันแสดงว่าเราคือเพื่อนกัน

 

“…..”

 

เดี๋ยวนะ..เมื่อกี้ผมเหมือนเกือบจำอะไรบางอย่างได้

 

รู้สึกราวกับว่าความทรงจำที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในส่วนลึกจะถูกกระตุ้นซึ่งทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นไปอีก

 

“คุณมินาโตะคะ เป็นอะไรรึเปล่า…จู่ๆก็เงียบไป”

 

“คุณรู้มั้ยครับ ผมสงสัยว่าผมเป็—อ๊ะ..ไม่มีอะไร!..”

 

ผมเป็นเพื่อนคนเดียวของริโกะตอนที่เธออยู่ในโรงเรียนอนุบาลและรักแรกของเธอก็คือ….

 

คำพูดของริโกะกับความทรงจำที่ได้มา คิดดีๆแล้ว หากทั้งสองอย่างเชื่อมกันนั่นก็หมายความว่า…

 

“คุณริโกะ ขอโทษนะ พอดีผมมีเรื่องอะไรให้คิดนิดหน่อย ขอกลับห้องก่อนนะครับ!”

 

“เอ๊ะ..!”

 

“ขอโทษจริงๆ ฝันดีนะครับ”

 

“เอ่อ…ฝันดีเช่นกันค่ะ..?”

 

ผมปล่อยริโกะไว้ในห้องนั่งเล่นซึ่งยังมีสีหน้างุนงงอยู่ และรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องของตัวเอง

 

เมื่อมาถึงห้องผมรีบปิดประตูแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่พรัอมกับหันหลังเอนพิงประตู..

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ต้องจัดระเบียบความคิดของตัวเองก่อน

 

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆอีกสองสามครั้ง แล้วพยายามสงบสติอารมณ์ลง

 

นานมาแล้วที่ผมไม่อยากมองย้อนกลับไปในอดีตสมัยช่วงมัธยมต้นลงมา สำหรับผมแล้วมันเป็นอดีตที่มืดมิด เป็นความทรงจำที่ไม่อยากขุดขึ้นมาอีก….

 

ตอนผมอยู่ประมาณม.ต้น ผมเคยคิดว่าสามารถเข้ากับคนอื่นได้ทุกคน และหลังจากนั้นผมก็เปลี่ยนทัศนคติของตัวเองที่มีต่อคนอื่นอย่างสิ้นเชิง…

 

เมื่อไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นแล้ว ผมเริ่มเปลี่ยนนิสัยแบบเดิมของตัวเองในการปฏิบัติต่อผู้คนในฐานะเพื่อน

 

เพียงแค่การสนทนาสั้นๆผมเริ่มคิดว่าตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจหรือไม่ ผลที่ได้ก็คือผมเป็นคนที่พูดน้อยมากๆ

 

ตรงข้ามกันก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลง ผมเป็นคนที่พูดเก่ง ไร้เดียงสา และพูดพล่ามใส่คนอื่นอย่างไม่ลังเล

 

เมื่อเทียบกับตอนนี้แทบจะเป็นคนละคนกันเลย…

 

ผมคิดว่ายิ่งผมมีตัวตนในชีวิตน้อยลงเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งทำให้คนอื่นไม่สบายใจน้อยลงเท่านั้น

 

นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องแบบนี้นะ…

 

เพื่อที่จะปลุกความทรงจำ ผมกลับมาดูรูปที่พ่อตาส่งมาให้อีกครั้ง

 

“ฮะๆ ริโกะตอนเด็กก็น่ารักไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย..”

 

แก้มของเธอดูนุ่มน่าเอามือไปหยิกมาเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ

 

นั่นไปใช่ประเด็น!!

 

ผมรีบฟื้นคืนสติซึ่งเกือบจะหลงไปอีกทางหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ.

 

“สมาธิ..”

 

เมื่อเปิดภาพแรกออกมา ผมก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาว่า”เอ๊ะ!”

 

สิ่งที่เห็นในนั้นคือใบหน้าของริโกะยู่ยี่ด้วยน้ำตา ชุดเดรสสีขาวที่เธอสวมอยู่นั้นเต็มไปด้วยซอสมะเขือเทศ บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่เธอร้องไห้ แต่นั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญ

 

…ใบหน้าตอนร้องไห้ของริโกะ..

 

สิ่งนี้ทำให้ความทรงจำในวัยเด็กของผมที่กำลังหลับไหลอยู่ค่อยๆตื่นขึ้นอีกครั้ง

 

******

 

“นี่ เธอทำปราสาททรายอยู่เหรอ..”

 

“…”

 

“ชั้นจะทำด้วยคน”

 

“…”

 

“ส่งพลั่วนั่นมาให้ชั้นสิ..”

 

“….”

 

“ขอบคุณ ตอนนี้ชั้นเป็นราชาแล้ว ชั้นจะสร้างหอคอยนี้….เอ..ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”

 

“…”

 

“ไม่มีชื่อเหรอ..”

 

“…”

 

“ชั้นจะไม่สามารถทำให้เธอเป็นเจ้าหญิงได้นะถ้าเธอยังไมบอกชื่อกับชั้น…”

 

“..รี ริโกะ..”

 

“เอ๊ะ..!? เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ..”

 

“ริโกะ..”

 

“ว้าว..ยอดไปเลย เป็นชื่อที่น่ารักสุดๆ”

 

“…”

 

“ใช่แล้ว ริโกะ ชั้นจะให้ถังของชั้นกับเธอ ถ้าใส่ทรายลงไปแบบนี้แล้วพลิก..มันจะกลายเป็นหอคอยแบบนี้”

 

“เอ..จริงด้วย..ว่านี่นายไม่คิดว่าฉันพูดแปลกเหรอ.?.”

 

“ไม่เลย นั่นมันเจ๋งมาก..!”

 

”  ..ขอบคุณนะ..ฉันเองก็อยากรู้ชื่อนายเหมือนกัน”

 

“ชั้นชื่อมินาโตะ!”

 

“ม..มินาโตะ”

 

“ใช่แล้วล่ะ ฮี่ฮี่…”

 

“ฮะๆ มินาโตะ ขอบคุณนะ..”

 

“เอ๋…ขอบคุณเรื่องอะไรเหรอ”

 

“ไม่มีอะไร แต่นี้ฉันก็ดีใจแล้ว!

 

“อึม…ไม่เข้าใจเละ แต่ช่างเถอะชั้นดีใจนะที่เธอมีความสุข นี่ริโกะ ทำไมเธอถึงอยู่คนเดียวตลอดเวลาล่ะ”

 

“เอ่อ..คือ..เพราะว่า—”

 

=====

 

—ถูกต้อง ริโกะเป็นเด็กผู้หญิงที่ย้ายมาอยู่โรงเรียนอนุบาลที่ผมเรียนอยู่ และเธอก็เล่นคนเดียวทุกวัน

 

ตอนนั้นผมอยู่ในความคิดที่ว่าเด็กทุกคนในโรงเรียนอนุบาลเป็นเพื่อนของผม

 

ดังนั้นผมก็เลยเริ่มคุยกับริโกะโดยไม่ลังเลและเล่นกับเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

ทำไมผมจำได้แม่นจัง โดยเฉพาะตอนที่พูดว่า”เราเป็นเพื่อนกันแล้ว” ตอนนั้นริโกะถึงกับน้ำตาไหล ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะตอบสนองแบบนั้น จึงค่อนข้างตกใจมากเมื่อตอนเป็นเด็ก

 

ผมยังจำได้ว่าหลังจากนั้นผมรู้สึกโล่งใจมากแค่ไหนเมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะเธอเศร้า

 

แต่…เกิดอะไรขึ้นกับเราหลังจากนั้น

 

ความทรงจำของผมเริ่มเลือนลางอีกครั้ง และต่อให้ผมพยายามนึกถึงมันมากเพียงใดก็ยังนึกไม่ออก

 

ริโกะกับผมเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันใช่มั้ย นั่นหมายความว่า..

 

ผมกับริโกะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน ตอนที่อยู่อนุบาล ผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ริโกะมี และเธอเคยบอกไว้ว่ารักแรกของเธอคือเพื่อนสมัยอนุบาล

 

ความเป็นไปได้ที่จินตนาการไว้คร่าวๆ ก็เชื่อมโยงถึงกัน

 

คำตอบที่ได้จากเรื่องนี้….

 

นี่หมายความว่าผมเป็นรักแรกของริโกะเหรอ..?

 

แค่นึกภาพครู่หนึ่งก็ทำให้ใจเต้นแรงมากจนรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา

 

“เอ่อ..นั่น..ไม่ มีทาง!”

 

เพราะมันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ยุติธรรมเลย ถ้าผมเป็นรักแรกของริโกะจริงๆ ป่านนี้ผมคงตายอย่างมีความสุขแล้ว

 

บุคลิกเก่าของผมเปรียบเสมือนประวัติศาสตร์อันมืดมนของตัวเองเสมอ

 

ผมสงสัยว่าเธอรู้เรื่องนี้มั้ย..

 

แต่ถ้าเธอรู้ เธอจะมาบอกกับผมมั้ยว่าผมเป็นรักแรกของเธอ แล้วจะรู้สึกยังไงถ้าเธอรู้ว่ารักแรกของเธอคือผม

 

 

 

จบ!!!

[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?

[WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?

Status: Ongoing
อ่านนิยาย [WN] Tsukushita Garina Uchi no Yome ni tsuite Dere temo ii ka?—ช่วงเวลาที่หนาวมากๆ..หิมะตกในเดือนกุมภาพันธ์.. เธออยู่ในอาพาร์ตเมนต์ของผม ฮานาเอะ ริโกะ “นิยามะ มินาโตะคุง..ได้โปรด…ห..ให้ฉัน…ป..เป็นภรรยาของคุณได้ไหมคะ” ผมไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรบางคิดผมอาจคิดไปเองหรืออาจแค่ฟังผิด แต่ด้วยการที่เธอนั้นจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาอ้อนวอน ผมบอกได้เลยว่าเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ และมือเล็กๆที่โอบที่หน้าอกของเธอก็ได้สั่นเล็กน้อย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset