[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta – ตอนที่ 15

เพื่อไปโรงเรียนผมกับโฮชิมิยะเลยมาเข้าแถวที่ชานชาลาของสถานี

 

“…..ยังคนเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

 

“ฮ่ะฮ่ะ นั่นสิน้าา”

พอเริ่มมีเสียงอึกทึกมากขึ้นแถวก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แน่นอนว่าการจะขึ้นรถไฟนั้นจะต้องเอาตัวดันเข้าไป เป็นเรื่องน่าเครียดที่ต้องใกล้ชิดกับคนที่ไม่รู้จัก พอพูดเรื่องนี้กับโฮชิมิยะเพื่อฆ่าเวลา โฮชิมิยะก็ยิ่มแหย่ๆมาเพราะเห็นด้วย แถมยังเปิดเผยเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้

 

“บางครั้ง…ก็โดนจับก้นด้วยล่ะ”

 

“แย่เลยไม่ใช่รึไงนั่น ถ้าเป็นพวกลวนลามก็ควรจะส่งเสียงนะ”

 

“ถ้าเกิดไม่ใช่ขึ้นมามันก็เรื่องใหญ่เลยนะ บางทีก็อาจจะบังเอิญโดนก็ได้ แต่ก็น่ากลัว….”

 

ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกแต่ประเภทแบบนี้อาจจะเป็นเป้าหมายก็ได้

โฮชิมิยะออกจะน่ารักด้วย เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะสังเกตุเห็น และเพราะมีความเด่นเลยสังเกตุเห็นได้ง่าย แถมยังเป็นประเภทที่ตกเป็นเหยื่อก็อดทนถ้าแบบนั้นมันก็ดีกับอีกฝ่ายสิ?

 

“……”

 

“คุโรมิเนะคุง? มีอะไรเหรอ?”

 

“เปล่า…”

 

ถ้าเกิดเป็นแบบนั้น สตอล์กเกอร์อาจจะอยู่บนรถไฟก็ได้ ถ้างั้นก็ตัดสินใจเรื่องที่ผมจะทำได้แล้ว เพราะว่าการปกป้องโฮชิมิยะเป็นเหตุผลที่ผมยังมีชีวิตอยู่ยังไงละ…..

 

อีกไม่นานรถไฟจะมา

พวกที่ต่อแถวกันอยู่ข้างๆหน้าขึ้นไปกันทีบะคน

ผมกับโฮชิมิยะเองก็ขึ้นไปแต่ว่าคนค่อนข้างแน่น อึดอัดชะมัด….

ถ้าเป็นเลเวลนี้คิดว่าให้ปั่นจักรยาน3ชั่วโมงซธยังจะดีกว่า

แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาบ่น

 

“โฮชิมิยะ ทางนี้”

 

“คุโรมิเนะคุง?”

 

จับมือของโฮชิมิยะแล้วพาไปตรงประตู

นำทางไปที่พื้นที่เล็กๆข้างๆราวจับและก็บังโฮชิมิยะด้วยตัวของผม เท่านี้ด้านหลังจะถูกป้องป้องด้วยกำแพงของรถไฟและด้านหน้าจะถูกปกป้องด้วยร่างกายของผม ….รู้สึกเหมือนบังคับสัตว์ตัวน้อยๆให้เข้าไปในพื้นที่เล็กๆเลยแฮะ

 

ขณะที่ใบหน้าของโฮชิมิยะเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็เงยหน้าขึ้นมาที่ทางนี้แล้วพึมพำว่า[คุโรมิเนะ..คุง?]

 

“เท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาจับแล้วใช่มั้ยละ…”

 

มีคนผลักหลังอยู่แต่ก็ระวังไม่ให้ไปโดนโฮชิมิยะโดยที่เอามือยันผนังไว้ ถึงจะเหมือนคาเบะด้งอยู่หน่อยๆก็เถอะแต่ว่ามีเราอยู่ใกล้ๆคงจะดีกว่า

 

“น นน นี่มัน…ใกล้เกินไปนะ คุโรมิเนะคุง..!”

 

“ช่วยไม่ได้หรอก คนมันเยอะนี่นา”

 

บางทีหน้าของผมเองก็คงจะแดงเหมือนกัน เป็นธรรมดาที่จะอาย เพราะระยะห่างที่มีจำกัดร่างกายก็เลยเสียดสีกันผ่านชุด หน้าอกและใบหน้าของโฮชิมิยะเองก็ด้วย

 

แถมพฤติกรรมของผมเองก็น่าอายด้วย ทำเป็นเท่เกินไปรึแปล่า? แต่ถ้าต้องให้โฮชิมิยะโดนใครไม่รู้มาสัมผัสสู้ให้ผมอดทนทรมารไปกับความอายเลยซะดีกว่า

 

“ก กลิ่น….กลิ่นของคุโรมิเนะคุงมัน…!”

 

“โฮชิคาวะ? เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

“…อุเฮะ? เอ๊ะ?”

 

ตาของโฮชิมิยะที่กำลังหมุนวนในตอนนี้เป็นการแสดงออกที่เหมือนกับอนิเมะเลย

สายตาเองก็ไม่มั่นคงแถมยังเลิกลัก เห็นได้ชัดเลยว่าความหมายจริงๆก็คือไม่คุ้นเคยกับผู้ชาย ต่อให้อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันเท่าไหร่

 

ผ่านไปไม่นานรถไฟก็หยุด แต่ว่าไม่ใช่สถานีที่พวกเราจะลง

และก็มีคนใหม่หลั่งไหลเข้ามา กับขบวนที่แน่นอยู่แล้วก็มีแรงมาดันหลังของผมมากขึ้นจากคนที่เข้ามาอีกครั้ง

 

จากที่เว้นระยะห่างจากโฮชิมิยะด้วยการที่เอามือดันประตูเอาไว้แต่ก็กลายเป็นเรื่องยาก แขนก็หมดแรงและเสียการค้ำจุน จากนั้นก็กอดโฮชิมิยะจากด้านหน้าแบบใกล้ๆ

 

“ฟุกิ้ว—-!”

 

เสียงที่น่ารักแต่ถูกกดเอาไว้ถูกส่งออกมาจากปากของโฮชิมิยะ เพราะตอนนี้โฮชิมิยะถูกประกบอยู่ระหว่างร่างกายของผมและผนังของตู้รถไฟ จะต้องอึดอัดแน่ๆ

 

“ฮ โฮชิมิยะ เป็นอะไรมั้ย?”

 

ถามโฮชิมิยะที่หน้าฝังอยู่กับหน้าอกของผม

 

“……”

 

“โฮชิมิยะ?”

 

“อุเห๋-?”

 

โฮชิมิยะค่อยๆเงยหน้าขึ้น

ดวงตางงๆที่จ้องไปที่ความว่างเปล่าและแก้มที่แดงราวกับแอปเปิ้ล

แถมยังร้อนเหมือนแช่น้ำร้อน

 

“….ไม่ไหว….แล้ว….”

 

สุดท้ายก็ กระตุกแล้วก็ฟุบไป

ฮ โฮชิมิย้าาาาา!

 

 

“ไม่คิดเลยวันที่อยู่ในห้องเรียนตอนเช้าอย่างสบายใจจะมาถึง….”

 

ผมนั่งในที่นั่งของตัวเองและถอนหายใจ[ฟู่]และสัมผัสถึงชีวิตประจำวันที่มีเสียงดังตามปกติ คึกคักตั้งแต่เช้าเลย

ผมบังเอิญมองไปที่โฮชิมิยะที่กำลังคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ยังเสียงดังและเด่นสดุดตาไม่เปลี่ยนเลยนะ

ลืมเรื่องในรถไฟแล้วก็ทำตัวให้สนุก …ดีจังเลย

 

“รู้สึกเหมือนที่ฉันทำไปจะให้ผลตรงกันข้ามยังไงไม่รู้…”

 

พยายามจะปกป้องโฮชิมิยะก็เลยผลักให้อยู่ชิดที่กำแพงแต่สุดท้ายก็ไปแบบติดกันซะได้

ผลงานของผมก็คือ[จู่ๆก็เข้าไปกอด] [มีหนังสือโป้ที่คล้ายกับโฮชิมิยะ] [แนบชิดทั้งร่างกาย]

….อ้าว แย่ยิ่งกว่าสตอล์กเกอร์อีกไม่ใช่รึไง?

 

“ริคุจัง!”

 

“ฮารุโนะ…?”

 

เพื่อนสมัยเด็กที่ยืนอยู่ข้างหน้าดูหงุดหงิดนิดหน่อย ดูยังไงก็อารมณ์เสีย พอคิดๆดู มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้คุยกับฮารุโนะแบบนี้ ช่วงนี้รู้สึกเหมือนห่างเหินไปสักหน่อย

 

“มีเรื่องจะคุยน่ะ! มาหน่อยได้รึเปล่า!”

 

…อ อะไรน่ะ?

สังหรณ์ใจไม่ค่อยจะดีเลยแฮะ

 

======จบตอน======

พระเอกโดนเรียกไปแทงที่ดาดฟ้าละมั้ง

ーーーーーーーーーーーー

ติดตามผลงานอื่นๆกับสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

[WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudatta

Status: Ongoing
อ่านนิยาย [WN]Konbini gōtō kara tasuketa jimi ten’in ga, onaji kurasu no ubude kawaii gyarudattaไม่ไหวแล้วตายดีกว่า ฤดูใบไม้ผลิของมัธยมปลายปี2 ฉัน[คุโรมิเนะ ริคุ]สารภาพรักกับเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ―――――แล้วถูกสลัดรักแบบง่ายๆ จนถึงประถมต้นเราอาบน้ำด้วยกันและให้คำมั่นจนกว่าจะถึงอนาคต ม.ต้นและม.ปลายเองก็เหมือนกันเราไปและกลับจากโรงเรียนด้วยกัน เราที่อยู่ด้วยกันมักจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคู่รักจากคนรอบข้างอยู่ตลอด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset