(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท – ตอนที่ 5-1

ตอนที่ 5-1 เยียวยา

 

 

 

 

“ตอนนี้ยอมกลับมาได้แล้วใช่ไหม” 

 

 

“ดูพูดเข้า” 

 

 

“นายก็รู้นี่ ฉันพูดแบบนี้มาเป็นเดือนแล้วไม่ใช่เหรอไง” 

 

 

“อื้อ” 

 

 

วันนี้ก็เช่นกัน พอจัดการงานที่คาเฟ่เรียบร้อยแล้ว ซองจูก็บ่นใส่จองอูที่รีบร้อนมาหาตัวเองในทันที 

 

 

ทั้งสองกลับมาคืนดีกันและเริ่มคบหากันอย่างเป็นทางการได้หนึ่งเดือนแล้ว ในระหว่างนั้นจองอูก็ยังคงไปช่วยงานที่คาเฟ่อยู่เช่นเดิม จะมาหาซองจูที่นี่ก็ประมาณสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง นั่นจึงทำให้ซองจูไม่พอใจอย่างมาก 

 

 

ไม่สิ เคยอยู่ด้วยกันมาตลอด พอไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายเดือน ห่างกันเพียงวันเดียว ก็กระโจนพุ่งเข้าหากัน มันดูจะยังไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ ซองจูไม่เคยเข้าใจความคิดของจองอูเลยจริงๆ แม้ว่าแต่เดิมคิมจองอูก็เป็นพวกที่เข้าใจยากอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ เขาได้แต่บ่นมันออกมา พร้อมกับรับแก้วกาแฟที่จองอูยื่นมาให้ 

 

 

“ก็นั่นแหละ นายเลิกทำงานที่คาเฟ่นั่นไม่ได้เหรอ? ดูยังไง ที่นั่นก็ละเมิดกฎหมายแรงงานชัดๆ เลย ฉันไปแจ้งความได้เลยด้วยซ้ำ” 

 

 

“ทำไมล่ะ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ไม่มีที่ไหนที่ให้สวัสดิการเป็นที่พักพร้อมอาหารแบบนี้แล้วนะ” 

 

 

“เงินก็ไม่ได้ให้นี่ อะไรกัน! นายเป็นพวกใจง่ายรึไง?” 

 

 

“ถ้าพี่เขาไม่มีคนช่วย ก็แค่ปิดคาเฟ่ แล้วก็ขายแค่เมล็ดกาแฟก็อยู่ได้แล้ว คนที่เสียดายก็คือฉันนี่แหละ” 

 

 

จองอูพูดเช่นนั้น พร้อมกับยกยิ้ม 

 

 

“เมื่อก่อนถ้าไม่มีที่ไป ฉันก็ไปรบกวนเขาอยู่บ่อยๆ เขาเป็นคนดีนะ” 

 

 

คำพูดที่ได้ยินทำให้หางตาของซองจูกระตุกขึ้น 

 

 

“…นอนด้วยกันแล้ว?” 

 

 

“หา?” 

 

 

“พวกนาย นอนด้วยกันแล้วเหรอ” 

 

 

ซองจูถามออกมาแบบนั้นพร้อมกับเหลือบมองสำรวจอีกคน 

 

 

คนที่ไม่ได้รักกัน แต่ก็ยังมีเซ็กซ์กันได้มีเยอะแยะไป ก่อนหน้านี้คิมจองอูก็เคยมีเซ็กซ์กับคนอื่น ทั้งที่ไม่ได้คบใครอยู่ ดังนั้นก็สามารถที่จะมีเซ็กซ์กับเจ้าของร้านคาเฟ่นั่นได้เหมือนกัน ในหัวของซองจูคิดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว จองอูที่รับรู้ถึงอารมณ์ที่ค่อยๆ ปะทุขึ้นมาของซองจู ก็เผลอหลุดขำออกมาเสียได้ 

 

 

“เฮอะ จริงๆ เลย…” 

 

 

เสียงหัวเราะนั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของซองจูขุ่นมัวยิ่งขึ้น 

 

 

“อะไร นอนด้วยกันแล้วจริงเหรอ?” 

 

 

จองอูได้แต่ส่ายหัวให้กับซองจูที่แผดเสียงตะโกนออกมาเช่นนั้น 

 

 

“พูดอะไรที่เป็นไปได้หน่อยเถอะ ทำไมฉันต้องนอนกับพี่เขาด้วย” 

 

 

“ตอนที่โมโหก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นี่!” 

 

 

“ฉันไม่ใช่พวกมักมากสักหน่อย” 

 

 

“ถ้างั้นคืออะไรล่ะ ทำไมถึงเลิกทำไม่ได้?” 

 

 

“อย่างน้อยก็ได้ทำอะไร ให้อยู่เฉยๆ ก็ยังไงอยู่” 

 

 

“ทำเพลงไปสิ” 

 

 

“นั่นฉันก็ทำอยู่ แต่ว่านั่นมันต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป” 

 

 

คำพูดตัดจบง่ายๆ เช่นนั้นของจองอูทำให้จิตใจซองจูร้อนรุ่มไปหมด แล้วเขาก็เอ่ยคำพูดติดปากตลอดหลายวันที่ผ่านมาออกไปอีกครั้ง 

 

 

“งั้นก็มาอยู่ที่นี่สิ ทำไมจะไม่มีที่ไป? นายก็เคยมากินนอนอยู่ที่นี่ตั้งหลายเดือน ทำไมตอนนี้ถึงทำไม่ได้ล่ะ? ลองอธิบายมาสิ” 

 

 

ซองจูเอ่ยเช่นนั้นออกไป พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก หากอีกคนไม่ยอมอธิบายออกมาแต่โดยดี เขาก็จะสร้างความกดดันให้แบบนี้ต่อไป บรรยากาศตอนนี้ทำเอาจองอูหนักใจขึ้นมาบ้างแล้ว 

 

 

“ตอนนั้นฉันก็คิดจะย้ายออกไปในสักวันอยู่แล้วนะ” 

 

 

ความจริงที่ถูกสารภาพออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทำเอาแววตาของซองจูสั่นไหวอย่างรุนแรง 

 

 

“การอยู่ที่นี่มันทำให้ฉันอึดอัด แล้วก็ลำบากใจมาก มันกว้างเกินกว่าจะอยู่กันแค่สองคน มันเหมือนโดนกดดันอยู่ตลอด” 

 

 

เขาพูดออกมาแบบนั้น พร้อมกับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของซองจู 

 

 

ถึงจะเจ็บปวด แต่เขาก็รู้ดีว่าจองอูคือคนที่สามารถจากไปได้ในวันใดวันหนึ่ง นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ซองจูไม่พอใจเลยสักนิด แต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากซ่อนความไม่พอใจนี้เอาไว้ ต่อหน้าคนอื่นเขาสามารถซ่อนความรู้สึกตัวเองได้ดีเสมอมา แต่พออยู่ต่อหน้าจองอู เขากลับไม่เคยซ่อนมันได้เลย หากเพราะรู้ดีว่านั่นคือความรักในแบบของตัวเอง ซองจูจึงได้แต่เจ็บปวดอยู่เช่นนี้ 

 

 

ขณะที่คิดว่าเคยเกาะติดอีกคนได้ครั้งหนึ่ง จะทำอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้หรือ เขาก็เกิดกลัวว่าจองอูอาจจะผิดหวัง หรือเอือมระอาเขา จนไม่อาจอยู่ใกล้กันได้อีก หากเป็นคนอื่น เขาคงหลุดปากว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรเป็นเรื่องที่เขาจะตัดสินเอง แต่กับจองอูเขาทำแบบนั้นไม่ได้ ถึงได้ปวดใจอยู่เช่นนี้ ไม่มีที่ไหนให้คำปรึกษากับอาการนี้ได้เลย 

 

 

ถึงเรื่องนี้จะพูดคุยกับดงฮยอนได้ แต่ก่อนที่เขาจะได้รับความช่วยเหลือ คงต้องทนถูกอีกคนหัวเราะเยาะเสียก่อน ซองจูจึงได้เลิกคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไปนานแล้ว 

 

 

“งั้นเหรอ ก็ช่วยไม่ได้นะ” 

 

 

ซองจูพูดออกมาเช่นนั้น พร้อมกับหลุบตามองต่ำ วันนี้เขารู้สึกว่าห้องนั่งเล่นดูจะอ้างว้างขึ้นมาอย่างน่าประหลาด 

 

 

“เฮ้อ…” 

 

 

จองอูเองก็ร้อนใจไม่ต่างกัน 

 

 

เขารู้ดีว่าซองจูกำลังเข้าหาเขาด้วยความจริงใจ แต่ทว่ามันกลับทำให้เขาอึดอัด เขาไม่เคยชินกับสถานการณ์แบบนี้ แล้วเขาก็เกลียดตัวเองที่เชื่องช้าเหลือเกิน เขาอยากถามว่าเราค่อยเป็นค่อยไปกันดีไหม ไม่ใช่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ซองจูยอมอ่อนข้อให้เขามันช่างมากมายเหลือเกิน จองอูจึงทำได้เพียงปิดปากเงียบ อย่างไรเสีย มันก็ต้องมีทางออกสำหรับพวกเขา 

 

 

“ต้องทำยังไงล่ะ” 

 

 

แล้วเสียงรบกวนบางอย่างก็ดังลอดเข้ามาในโสตประสาทของจองอู ขัดเสียงพึมพำแผ่วเบาของเจ้าตัวเอาไว้ พอหันมองไปรอบๆ จึงได้เห็นว่า โทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะกินข้าวในห้องครัวนั้น กำลังส่องแสงวูบวาบออกมา จองอูลุกจากโซฟา ก่อนจะก้าวเร็วๆ ไปทางห้องครัว 

 

 

“สวัสดีครับ” 

 

 

[จองอู ว่างไหม] 

 

 

เป็นเซจุนนั่นเอง น้ำเสียงที่ฟังร่าเริงไม่ต่างจากปกติของเจ้าตัวทำให้อารมณ์ของจองอูพลอยดีขึ้นตามไปด้วย จองอูยกยิ้มออกมา พร้อมกลับเอ่ยทักทายกลับไป 

 

 

“พี่นั่นเอง สวัสดีครับ” 

 

 

คำทักทายนั้นทำให้รู้สึกได้ว่าซองจูที่เอนตัวพิงโซฟาอยู่ถึงกับหางตากระตุก จองอูยืนหันหลังให้ห้องนั่งเล่น ขณะที่จดจ่อกับการคุยโทรศัพท์ 

 

 

[นี่ เจ้าเด็กทึ่ม นายหายตัวไปโดยที่ไม่บอกอะไรพวกเราสักคำได้ไง หา? ยังไม่รีบพูดอีกว่าตัวเองผิด] 

 

 

“ผิดไปแล้วครับ ว่าแต่มีเรื่องอะไรเหรอครับ” 

 

 

[อ้อ ว่างไหม ออกมาเจอหน่อยสิ] 

 

 

ทันทีที่ยอมรับผิดออกไปอย่างง่ายดาย เซจุนก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรอีก อีกคนกลับเรียกให้จองอูออกไปหาแทน 

 

 

“ครับ? ตอนนี้เหรอครับ?” 

 

 

[จะตกใจอะไรหนักหนา คนเขารู้กันทั้งโลกแล้ว ว่านายมันเป็นพวกมนุษย์กลางคืนน่ะ ทำไม ไม่ว่าง? อยู่ไหนเนี่ย?] 

 

 

“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันแน่ครับ? หรืองานครั้งก่อนมีปัญหาเหรอครับ?”  

 

 

จองอูรีบร้อนเปลี่ยนเข้าสู่โหมดเป็นการเป็นงานขึ้นมาในทันที ในเวลาแบบนี้ ให้ไปทำงานยังจะดีเสียกว่า พอเซจุนได้ยินคำพูดที่พุ่งสวนกลับมาเหมือนคมมีดนั้นแล้ว เขาก็หัวเราะออกมานิดๆ ทันที 

 

 

[ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ต้องเรียกตัวนายมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วสิ ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก พอดีตอนนี้พวกเรากำลังทำดิจิตอลอัลบั้มกันอยู่ ว่าจะให้นายมาทำด้วย ออกมาลองฟังเพลงดูหน่อยเป็นไง] 

 

 

“อ้า งั้นเดี๋ยวผมไปที่ห้องซ้อมเลยแล้วกันครับ คงจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงนะครับ” 

 

 

[โอเค รับทราบ] 

 

 

จองอูยังไม่ทันได้ฟังคำพูดของเซจุนก็วางสายไปทันที ซองจูที่มองจองอูอยู่ตลอด เห็นเช่นนั้นแล้ว จึงได้ลุกจากที่นั่ง 

 

 

“อะไรเนี่ย จะไปไหนอีก” 

 

 

“ไปฮงแดน่ะ” 

 

 

“ไปห้องซ้อม เจ้าพวกนั้นโทรมาชวนเหรอ?” 

 

 

ซองจูที่ยังคงมีสีหน้าไม่พอใจอยู่เช่นเดิมปราดตามองจองอู และรีบก้าวไปหาจองอูที่รีบร้อนเก็บมือถือและกำลังจะก้าวทางไปทางประตูบ้านพลางทำหน้าเศร้า  

 

 

“อื้อ พี่เซจุนบอกให้ไปเจอกันหน่อยน่ะ” 

 

 

“คิมเซจุน? พอเจ้านั่นชวนก็รีบร้อนออกไปเลยนะ…” 

 

 

จองอูจัดการยีผมของซองจูที่บ่นพึมพำจนมันยุ่งเหยิง แล้วจึงได้เห็นใบหน้าหงิกงอของอีกคน กระชากแขนของอีกคนเข้ามาใกล้ กอดเจ้าตัวไว้ในอ้อมแขน ซองจูจึงเบะปากออกมา แต่ก็ปล่อยตัวไปตามแรงดึงของอีกคน 

 

 

“ไม่กลับเข้ามาแล้วใช่ไหม” 

 

 

“อืม ไม่รู้สิ น่าจะดึกเลยล่ะ” 

 

 

“งั้นก็ไม่ต้องมา ถ้าเอาแต่ไปๆ มาๆ แบบนี้มันเสียเวลา” 

 

 

ซองจูพูดออกมาพร้อมกับซบหน้าลงในอ้อมกอดของอีกคน ท่าทางเช่นนั้นดูราวกับจะตายเสียให้ได้ ทำเอาจองอูไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเลย 

 

 

“…อื้อ แล้วจะโทรหานะ” 

 

 

“จะนอนแล้ว ไม่ต้องโทรมา” 

 

 

ซองจูบ่นพึมพำ ขณะที่เดินไปส่งจองอู ท่าทางของอีกคนที่ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนทุกที ไม่รู้ทำไมมันถึงทำให้จองอูรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างไรก็ไม่รู้ 

 

 

 

 

 

* * * 

 

 

 

 

 

“โอ๊ะ คิมจองอู ไม่เจอกันนานเลยนะ” 

 

 

ทันที่ที่เจอหน้า เซจุนก็พูดจาเย้าแหย่ เซจุนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้คนรอบข้างสบายใจนั้น เป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนที่จองอูชื่นชอบ เขายกยิ้มออกมาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาในห้องซ้อมของวงคราฟท์ 

 

 

“สบายดีนะครับ แล้วคนอื่นๆ ล่ะครับ” 

 

 

“กลับไปแล้วสิ เหมือนทุกวันนั่นแหละ ซองฮีก็กลับบ้านดื่มด่ำกับชีวิตข้าวใหม่ปลามัน ซองฮุนก็เย็นชาไปตามประสา ฮยอนจินกับแฮจินก็รีบกลับบ้านไปเล่นเกม” 

 

 

“แล้วพี่ล่ะครับ พี่ก็มีแฟนแล้วนี่ ไม่ใช่งั้นเหรอครับ” 

 

 

คำถามของจองอูที่รู้ดีว่าเขาเป็นพวกติดแฟน ถึงได้คอยเอาแต่งอแงคร่ำครวญอยู่ทุกวัน มันทำให้เซจุนแสดงสีหน้าหดหู่ออกมา 

 

 

“ที่รักไปดูงานน่ะสิ อีกตั้งสองอาทิตย์กว่าจะกลับมา” 

 

 

อย่างนี้เองสินะ คิมเซจุนที่เอาแต่ทะเลาะกับบรรดาสมาชิกคนอื่นๆ ในวงคราฟ์ จนเป็นคนงี่เง่าติดอันดับหนึ่งหรือไม่ก็สองของวงก็มีด้านแบบนี้อยู่ด้วยสินะ จองอูยกยิ้มขำออกมา พร้อมกับยกเครื่องดื่มที่เซจุนส่งให้ ขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง 

 

 

“ไม่ได้นอกใจซะหน่อย จะทำเศร้าไปทำไมกันครับ ก็ไปทำงานนี่นา อีกแค่สองอาทิตย์ก็ได้เจอกันแล้ว อดทนหน่อยเถอะครับ” 

 

 

พูดออกมาแบบนั้นแล้ว จองอูก็ยกยิ้มออกมา เซจุนได้แต่ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น ก่อนจะเปิดปากถามออกไป 

 

 

“คนที่ทำให้คนรอบข้างต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวเอง พูดจาอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ?” 

 

 

“ครับ?” 

 

 

“ตอนนี้กับพี่ซองจูโอเคแล้วใช่ไหม ตอนที่พี่เขาบุกเข้ามาซักไซ้เรื่องนายที่นี่ ฉันก็พอจะเดาได้อยู่หรอก…เจ้านี่ นายคิดจะมีแฟนทั้งที นายควรจะบอกเรื่องของตัวเองให้รู้บ้างนะ จะได้เตรียมรับมือล่วงหน้าได้ อยู่ๆ มาหายตัวไปแบบนั้น มันใช้ได้เหรอ เพราะนาย เกือบจะเกิดสงครามพี่น้องขึ้นแล้วรู้ไหม” 

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

ตอนที่ 1 – 5.5 (ตอนพิเศษ) อ่านนิยาย (จบ) ฮันซองจูนักแสดงหนุ่มชื่อดังโดนคู่หมั้นสาวถอนหมั้นอย่างไร้เยื่อใย แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของต้นสังกัดก็ส่งคิมจองอู ชายหนุ่มแปลกหน้าให้มาพักกับเขา จากที่คิดว่าอีกคนคงจะทนไม่ได้แล้วจากไป แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก้าวเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจฮันซองจูมากกว่าที่คิด ทำไมแค่มีอีกคนอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็รู้สึกดีขึ้นมาได้ ใครคนหนึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้เขามี ‘ชีวิต’ ขึ้นมา แล้วแขกไม่ได้รับเชิญที่ชื่อคิมจองอู ก็ไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าอีกต่อไป แสดงเพิ่มเติม

Options

not work with dark mode
Reset