(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย – ตอนที่ 5-1 รัก

ตอนที่ 5-1 รัก

 

ตอนที่ 5 รัก 

 

 

 

 

 

โซกังพลันลุกจากที่นั่งแล้วคุกเข่าลงกับพื้น ควรจะต้องเอ่ยถวายพระพรต่อองค์จักรพรรดิ ทว่ากลับไม่มีถ้อยคำใดเอ่ยเอื้อน เพราะหัวใจยังคงเต้นกระหน่ำจนปวดหนึบไปหมด ในหัวสับสนจนไม่อาจเอ่ยคำใดๆ ออกมา 

 

 

ด้วยไม่อาจปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกดำเนินเป็นเส้นขนานต่อกัน ความรู้สึกโลดเต้นไปทั่วทิศทางเฉกเช่นสุนัขคลั่งไม่รับรู้วันข้างหน้า มันจุกแน่นอยู่ที่ลำคอจนต้องเปล่งเสียงออกมา เปรียบดั่งคนตามืดบอด ไม่อาจเดินตรงไปในทิศทางที่ถูกต้อง หากไม่ได้คนช่วยจับจูงนำทาง 

 

 

“เฮ้อ…” 

 

 

ร่างบางเผลอทอดถอนหายใจออกมาไม่รู้ตัว หวนนึกถึงคำสอนของเหล่านักปราชญ์ในกาลก่อน ทว่าถึงจะตรึกตรองในใจอย่างไร มันก็ยังคงแสดงอาการร่ำร้องเสียงดังอยู่เรื่อยไป เพราะความรู้สึกยังสาดซัดเข้ามาโดยไม่มีท่าทีว่าจะสงบลง กระทั่งหัวใจก็บีบรัดจนอึดอัด 

 

 

ความรู้สึกยามนึกถึงฝ่าบาทนั้น มันต่างจากยามนึกถึงบิดา ยามนึกถึงมารดา ยามนึกถึงมูฮยอน กระทั่งยามนึกถึงโซยงก็ตาม 

 

 

ความรู้สึกเช่นนี้ตัวเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยสักครั้ง อีกทั้งร่างกายก็พลอยประหลาดไปด้วย ยามหัวใจเต้นกระหน่ำจนปวดหนึบจนเหมือนได้ยินเสียงดังอยู่ข้างหู เป็นครั้งแรกที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ กระทั่งเสียงรอบข้างก็ถูกกดทับเช่นเดียวกับเมื่อครั้นไข้ขึ้นสูง 

 

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง จาฮอนก้มมองโซกังที่เอาแต่หมอบคำนับโดยไม่เอ่ยวาจาใดๆ 

 

 

“อะแฮ่ม” 

 

 

และเพื่อดึงสติของอีกคนที่คล้ายจะล่องลอยไปที่อื่นให้กลับมา เขาจึงได้กระแอมครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นก็เห็นว่ามือเรียวที่ใช้คํ้ายันกับพื้นขยับสั่นไหว ดูท่าคงจะกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่จริงๆ 

 

 

“เอ่อ… ถวายพระพรพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” 

 

 

“ลุกขึ้น” 

 

 

หลังจากได้ยินคำอนุญาต โซกังก็ตอบรับด้วยคำว่าพ่ะย่ะค่ะ ทว่ายังคงนั่งใจลอยอยู่เช่นเดิม หลงลืมกระทั่งว่าตนต้องขยับลุกขึ้น เพราะดื้อดึงติดอยู่กับความคิดเกี่ยวกับความรู้สึกที่ถาโถมใส่อย่างเอาแต่ใจ 

 

 

การพบกับฝ่าบาทในคราแรก เรื่องราวครั้นลืมตาขึ้นมา ณ ตำหนักคอนรยุง ยามถูกฝ่าบาทครอบครอง ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่อาจขัดขืน ท่าทีของฝ่าบาทยามยอมอ่อนข้อต่อการกระทำอันไร้มารยาททุกอย่างของตนวาบผ่านเข้ามาในความคิดอย่างต่อเนื่อง และในท้ายสุดของความคิดทั้งหมด กลับเคลือบแฝงด้วยความละอายใจอย่างถึงที่สุดต่อโซยง 

 

 

ความยินดีและความหวั่นไหวต่อการหมั้นหมายกับนาง อย่างไรก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่เล็กๆ มูฮยอน โซยงและเขาเติบโตมาด้วยกัน ท่านพ่อเองต่างก็สนิทสนมกันกลมเกลียว ด้วยเหตุนั้น คำพูดของพวกผู้ใหญ่กับความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน จึงพลอยทำให้เขาคิดไปไกลถึงอนาคตกับโซยง หากมีโซยงอยู่ด้วย ก็จะรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายในบางคราที่นึกถึงท่านแม่ขึ้นมา อีกทั้งการใช้ชีวิตกับนางแต่ละวันก็ช่างมั่นคงและสงบสุข 

 

 

ครานั้นนางดึงมือของเขาไปวางทาบลงบนหน้าอก ก่อนจะกระซิบกระซาบอย่างแผ่วเบา 

 

 

‘ท่านพี่ ท่านเคยใจเต้นแรงให้กับผู้ใดเช่นนี้หรือไม่เจ้าคะ ข้ารู้สึกเช่นนี้กับท่านพี่เจ้าค่ะ หากคนผู้นั้นของท่านพี่เป็นข้า คงดีไม่น้อย’ 

 

 

ยามนี้เสียงหัวใจเต้นดังตึกตักเป็นจังหวะเดียวกับสัมผัสบนมือเมื่อครั้งนั้น ตอนนั้นเขาไม่ได้ตอบอะไรโซยงกลับไป แม้คิดว่านางโอบกอดความรักลึกซึ้งเอาไว้ ก็ไม่อาจตอบกลับว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนกัน ไม่อาจดึงมือของนางมาวางบนหน้าอกคืน เพราะรู้สึกอับอายที่หัวใจของตนสงบนิ่งเมื่อเทียบกับนางแล้ว ขณะนั้นนํ้าเสียงของฝ่าบาทก็ไถ่ถามดังขึ้นมาให้ได้ยิน 

 

 

“ตื่นเต้นอย่างนั้นหรือ” 

 

 

“ฝ่าบาท” 

 

 

ความคิดพลันหยุกชะงัก เส้นผมดังแพรไหมสีดำสนิทถูกคว้าดึงให้ใบหน้าแหงนเงยขึ้น จาฮอนพยายามอดทนต่อผู้ที่ตอบรับกลับมาแต่ยอมไม่ขยับ กระทั่งไม่อาจทนได้ เขาย่อตัวลงตรงหน้าโซกัง คว้าจับเส้นผมให้เงยหน้าขึ้น 

 

 

แม้ไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็จ้องเขม็งตรงไปยังโซกัง เจ้าตัวกำลังสับสนกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ในแววตาเอ่อล้นด้วยความรู้สึกยากจะเข้าใจ สุดจะรู้และคาดเดาว่ามันคืออะไร ทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน หากถูกเปิดเผยความรู้สึกเหล่านั้นในตอนนี้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สั่งลงโทษกัน แม้ไม่ได้ลองรื้อค้นออกมาทีละอย่าง มันก็เกินกำลังจะรับไหว 

 

 

โซกังไม่ได้เอ่ยคำตอบใดให้ผู้เฝ้ารออย่างเขา ทั้งที่เพียงตอบรับว่า ใช่หรือไม่ใช่ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เพราะอีกฝ่ายกำลังหมกมุ่นคิดเรื่องอื่น จนไม่สนใจว่าคำถามของตนคืออะไร เรียวคิ้วของจาฮอนขมวดมุ่นขึ้นมาทันที 

 

 

แม้ไม่อาจรับรู้เหตุผล ทว่าตั้งแต่คราแรก เพียงแค่เป็นยูโซกัง เขาก็มักจะมีความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจราวแม่น้ำและผืนทะเล กระทั่งตอนนี้เองก็เช่นกัน แม้ร่างบางจะไม่ได้ตอบคำถามและอยู่นิ่งๆ ไม่คิดจะลุกขึ้นมา 

 

 

ทว่ามันก็จบสิ้นแล้ว จาฮอนไม่สามารถอดทนปล่อยให้คนตรงหน้าคิดเรื่องอื่นได้อีกต่อไปแล้ว 

 

 

“คิดเรื่องใดกัน” 

 

 

“มิได้พ่ะย่ะค่ะ” 

 

 

นํ้าเสียงฝ่าบาทแสดงชัดถึงอารมณ์ขุ่นเคือง โซกังจึงเปิดปากตอบอย่างตะกุกตะกัก ก่อนจะตกใจเล็กน้อย เมื่อรับสั่งให้เงยหน้าขึ้นจนได้สบตากับพระองค์ สีหน้าคล้ายกำลังกรุ่นโกรธทำให้รู้สึกหวาดหวั่น ความคิดยุ่งเหยิงก่อนหน้าพลันกลายเป็นขาวโพลน ความคิดทั้งหมดถูกครอบครองด้วยบุรุษตรงหน้าเพียงเท่านั้น 

 

 

หลังจากนั้นในหัวก็เต็มไปด้วยคำถามมากมาย เหตุใดฝ่าบาทถึงต้องทรงทำกับเขาถึงเพียงนี้ ทำไมกัน… 

 

 

ภาพเรือนนอนทาสหน่วยสามผุดวาบขึ้นมา เมื่อนึกถึงสิ่งน่ารังเกียจยามเป็นที่บำเรอของพวกทาสชาย ตลอดเวลาที่ตนถูกคนเหล่านั้นยํ่ายีนับครั้งไม่ถ้วน ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ไม่นึกรังเกียจการกระทำเช่นนั้น แม้จะกำจัดออกจากตรงนั้นจนหมดทุกครั้ง ทว่าพอนึกถึงโซยงขึ้นมา ก็ยิ่งละอายใจมากยิ่งขึ้น กระทั่งหวังให้ตนทำหน้าที่เฉกเช่นบุรุษไม่ได้ไปเลยเสียยังจะดีกว่า แม้ถูกบังคับให้เป็นที่บำเรอก็นึกรังเกียจแล้ว แต่ยิ่งเกิดความต้องการจากการกระทำนั้น ก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงยิ่งๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ 

 

 

ตัวเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความสุขสมจากการเสพสังวาสกับบุรุษ ใช่… ต้องไม่รู้สึก 

 

 

แต่จากการกระทำร่วมกับองค์จักรพรรดิ โซกังก็ไม่สามารถจะคิดเช่นนั้น ไม่สามารถปฏิเสธความสุขสมที่ฝ่าบาทมอบให้ แม้จะถูกบังคับขืนใจก็ตาม แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อีกฝ่ายกลับทรงเมตตา เอาใจใส่ดูแลเขาผู้เป็นเพียงทาสต่ำต้อยอย่างไม่จำเป็นต้องทำ 

 

 

เพราะฉะนั้น ใยฝ่าบาทถึงปฏิบัติต่อร่างกายอันด้อยค่าอย่างไม่อาจย้อนคืน สั่นคลอนหัวใจกันเช่นนี้ 

 

 

ตั้งแต่เยาว์วัย ก็ได้เรียนรู้ตำรามากมายมาพอควร คำสอนของบรรดาปราชญ์ในอดีตที่เคยอ่านจนจดจำได้ขึ้นใจ ยามนี้ล้วนกลายเป็นสิ่งไร้ค่า กระทั่งความรู้สึกที่เรียนรู้ว่าต้องควบคุมจิตใจตนให้ได้ก็ยังล้นทะลักออกมา 

 

 

“ฝ่าบาท…” 

 

 

ดวงตาคู่สวยของโซกังเอ่อคลอด้วยนํ้าตา และเพียงเสี้ยวเวลามันก็พลันรินไหล หยาดนํ้าตาสีใสกลิ้งหล่นลงมาตามผิวขาวกระจ่างไร้รอยตำหนิ ยิ่งทำให้หว่างคิ้วของจาฮอนขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม 

 

 

อยู่ภายในห้องหับที่จัดเตรียมเพื่อการร่วมหอ ทว่าสนมผู้ทำหน้าที่นั้นกลับปล่อยให้นํ้าตาไหลอย่างน่าสงสาร เขารู้สึกพิลึกพิกลอย่างถึงที่สุด 

 

 

ราวกับว่าตัวเขาเป็นทรราชแย่งชิงสตรีที่มีสามีอยู่แล้วมาอย่างไรอย่างนั้น ทั้งรู้สึกขุ่นเคืองและงุนงง ตอนกลางวันทำท่าทางออดอ้อนฉอเลาะ มาตอนนี้เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เล่า ความแตกต่างนั้นทำให้จาฮอนนึกสรุปเอาเองว่าอีกฝ่ายคงไม่มีสักเสี้ยวใจให้กับเขา สุดท้ายโทสะก็ปะทุขึ้นมาก็กลืนกินตัวตนของจาฮอน 

 

 

ถ้อยวาจาที่ไม่สามารถตะคอกใส่อีกคนได้ กระแทกเข้าที่ใจและหมุนวนซ้ำๆ อยู่ภายใน 

 

 

จาฮอนคิดว่ามันช่างไร้สาระ ในใจของเขามันตะโกนก้องบอกกับคนตรงหน้าว่าห้ามปฏิเสธ 

 

 

“เฮอะ…” 

 

 

ร่างสูงเค้นเสียงขึ้นจมูกะลางส่ายหน้า เวลานี้ภายในใจมีแต่ถ้อยคำแฝงความรู้สึกของบุรุษผู้มีความรักจากพวกบทกลอนรักชายหญิง ซึ่งปรากฏในหนังสือรักประโลมโลกพวกนั้น ตัวเขากำลังมีความรักต่อยูโซกัง 

 

 

กับคำว่ารักคำนั้น เมื่อนึกเชื่อมโยงการกระทำทั้งหลายที่ตนเคยทำต่อโซกังมาจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างมันก็สอดคล้องกันพอดี 

 

 

ตั้งใจทำให้เข้าใจว่า เพราะพัวพันกับคดีก่อกบฏของมหาเสนาบดีฝ่ายพลาธิการ จึงแต่งตั้งตำแหน่งเพื่อให้เหล่าขุนนางรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีเขาหนุนหลังอยู่ ทว่าเขาเองรู้แก่ใจดีว่ามันไม่ใช่เช่นนั้น จุดประสงค์ที่ต้องการบอกให้รับรู้ไม่ใช่การแต่งตั้งตำแหน่ง เพียงแค่เหนี่ยวรั้งร่างบอบบางไว้ข้างกาย และพาไปไหนมาไหนด้วยกันในวังหลวงได้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว 

 

 

ตระหนักได้อย่างแน่ชัดเช่นเดียวกับความชัดแจ้งของถ้อยคำ จึงยิ่งโกรธเข้าไปอีก หากเขารัก ก็ยิ่งไม่อาจยอมรับว่าถูกอีกคนปฏิเสธได้ 

 

 

จาฮอนคว้าจับแขนของโซกังแทนเส้นผม ก่อนจะฉุดให้ลุกขึ้นยืนอย่างจนโซกังรู้สึกถึงความเจ็บ ด้วยเหตุนั้นจึงมีเสียงโอดครวญหลุดออกมา 

 

 

เจ้าตัวโงนเงนไปมาหลังถูกฝ่ามือใหญ่ฉุดให้ลุกขึ้น ฝ่าบาททรงยืนอยู่ตรงหน้า โซกังยกมือขึ้นใช้ชายแขนเสื้อปาดเช็ดนํ้าตา ทว่าความรู้สึกที่ล้นทะลักออกมาครั้งหนึ่งแล้ว ก็ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้มันสงบลง หยาดน้ำตาแห่งความอ่อนล้าที่มีจนถึงตอนนี้ ความคิดถึงต่อโซยง ความละอายใจต่อโซยง ความรู้สึกทั้งหมดนั่นล้วนแฝงจิตใจว่าประกาศการจากลาอดีตของตน 

(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย

(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย

ยูโซกัง บุตรชายเพียงคนเดียวของอดีตขุนนางกรมราชเลขา ชีวิตต้องพลิกผันจากทายาทขุนนางชั้นสูงกลายเป็นเพียงทาสผู้ต่ำต้อย หลังผู้เป็นบิดาได้รับการตัดสินโทษประหารด้วยข้อหากบฏ จำต้องอดทนอดกลั้นถูกเหล่าทาสข่มเหงรังแกทุกวี่ทุกวัน ทว่าวันหนึ่ง ขณะกำลังชำระล้างร่างกาย เขาบังเอิญช่วยชีวิตคนผู้นึงไว้ได้ โดยหารู้ไม่ว่าคนผู้นั้นคือองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฮยอนวอน ยังจาฮอน ด้วยสาเหตุนั้นเอง ทำให้โซกังได้มีโอกาสเข้าวังหลวง จาฮอนตกหลุมรักโซกัง และพยายามรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ข้างกาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาคือบุตรชายของอดีตนักโทษประหารข้อหาร้ายแรงต่อแผ่นดิน ความรักต่างชนชั้นของทั้งคู่จะข้ามผ่านอุปสรรคและคำครหาทั้งหลายไปได้หรือไม่นะ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset